ผู้เชี่ยวชาญแนะรบ.ฮ่องกง ฉีดวัคซีนไบออนเทค ให้กลุ่มวัยรุ่นโดสเดียวพอ ชี้ลดโอกาสกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

แฟ้มภาพรอยเตอร์

ผู้เชี่ยวชาญแนะรบ.ฮ่องกง ฉีดวัคซีนไบออนเทค ให้กลุ่มวัยรุ่นโดสเดียวพอ ชี้ลดโอกาสกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

เมื่อวันที่ 16 กันยายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเสนอแนะให้รัฐบาลฮ่องกงควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไบออนเทค ให้กับกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 12-17 ปี แค่เพียงโดสเดียวพอ หลังจากมีรายงานการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบซึ่งเป็นอาการไม่พึงประสงค์ขึ้น

ศาตราจารย์เหลา ยู่หลง ประธานคณะกรรมการสาธารณสุขที่คอยให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลฮ่องกงเกี่ยวกับโครงการวัคซีนโรคโควิด ให้สัมภาษณ์กับอาร์ทีเอชเค สื่อฮ่องกงว่า ผลข้างเคียงดังกล่าวของวัคซีนเกิดขึ้นมากกว่าที่คิด

ศาสตราจารย์เหลา กล่าวว่า คณะผู้เชี่ยวชาญตัดสินใจว่าเป็นสิ่งดีกว่าสำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่จะฉีดวัคซีนโควิดเพียงเข้มเดียวที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบลงได้อย่างมาก และว่า ความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 ของฮ่องกงที่ยังอยู่ในระดับต่ำ นั่นหมายความว่าวัคซีนหนึ่งโดสก็ควรให้การป้องกันที่เพียงพอได้

ทั้งนี้ฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินแห่งเอเชีย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยส่วนใหญ่ไว้ได้ดี โดยฮ่องกงไม่มีรายงานการติดเชื้อในท้องถิ่นมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว

Advertisement

ข้อมูลของรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า จนถึงเดือนสิงหาคมมีรายงานผู้เกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจำนวน 41 ราย จากผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดของไบออนเทคที่พัฒนาร่วมกับไฟเซอร์ หรือคิดเป็นเพียง 0.0009% เท่านั้น โดยในกลุ่มผู้ประสบกับอาการไม่พึงประสงค์นี้ 16 รายเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 12-15 ปี หรือคิดเป็น 0.008% ของกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนในช่วงอายุดังกล่าว ซึ่งอาการได้หายไปหลังจากได้รับการรักษา

ทั้งนี้ฮ่องกงได้ใช้วัคซีนโควิด 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีนซิโนแวค และ วัคซีนไบออนเทค ในการฉีดให้กับประชาชน แต่ในกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 12-17 ปี จะใช้วัคซีนของไบออนเทคฉีดให้เท่านั้น โดยฮ่องกงได้ใช้วัคซีนจำนวน 448,000 โดส ฉีดให้กับคนกลุ่มอายุนี้ และราว 65% หรือ วัยรุ่นจำนวน 290,000 คน ได้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส

ขณะที่หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป(อียู) และ องค์การอนามัยโลก ต่างระบุว่า วัคซีนไบออนเทค/ไฟเซอร์ และวัคซีนของโมเดอร์นา ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด mRNA ก่ออาการไม่พึงประสงค์คือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ซึ่งเกิดขึ้นได้ยาก อย่างไรก็ตามวัคซีนนี้ถือว่าก่อประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image