สหรัฐขอโทษ! ส่งโดรนถล่มผิด จนดับ 10 อัฟกัน ไม่ใช่ไอเอส
เมื่อวันที่ 18 กันยายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐอเมริกาปริปากยอมรับความผิดพลาดและขอโทษแล้วเหตุส่งโดรนโจมตีในกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งพลาดไปสังหารพลเรือนชาวอัฟกันจนเสียชีวิต 10 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 7 ราย โดยชี้ว่าเป็นความผิดพลาดอันน่าเศร้า”
ทั้งนี้เพนตากอนหรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐยืนยันก่อนหน้านี้ว่าการโจมตีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ได้พุ่งเป้าโจมตีมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม(ไอเอสหรือไอซิส) ที่ก่อภัยคุกคามต่อกองกำลังสหรัฐที่ประจำการอยู่ที่สนามบินในกรุงคาบูลขณะเร่งอพยพพลเรือนและถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน แม้มีรายงานจากหลายแหล่งว่าการโจมตีดังกล่าว ได้ทำให้ชาวอัฟกันเสียชีวิต แต่นายพลสหรัฐยังกล่าวว่าการโจมตีนั้น”ชอบธรรม”
ในการแถลงยอมรับความผิดพลาดครั้งนี้กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (17 ก.ย.) พลเอกแฟรงก์ แมคเคนซี ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการกลางของสหรัฐ กล่าวว่า การโจมตีในขณะนั้นตนเชื่อมั่นว่าจะป้องกันภัยคุกคามจากกองกำลังของเราที่สนามบิน แต่ผลการสอบสวนของเราสรุปแล้วว่าการโจมตีดังกล่าวเป็น”ความผิดพลาดอันน่าเศร้า” โดยตอนนี้ตนเชื่อแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ที่ถูกสังหารดังกล่าว จะเป็นสมาชิกของกลุ่มไอซิส โคราซาน ซึ่งเป็นเครือข่ายกองกำลังรัฐอิสลาม หรือก่อภัยคุกคามโดยตรงต่อกองกำลังสหรัฐ
ด้านนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แถลงว่า โดรนดังกล่าวสังหารนายอาห์มาดี ผู้ทำงานให้กับองค์กรไม่แสวงผลกำไร และว่า เรารู้แล้วว่านายอาห์มาดีและกลุ่มไอซิส-โคราซาน ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน การทำงานของเขาในวันดังกล่าวไม่เป็นอันตรายและไม่เกี่ยวข้องอย่างสิ้นเชิงกับภัยคุกคามที่เราเชื่อว่าเราเผชิญหน้าอยู่
“เราขอโทษและเราจะเรียนรู้จากความผิดพลาดที่น่ากลัวครั้งนี้” รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐกล่าว
ทั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอน รวมถึงรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐที่จะออกมากล่าวขอโทษด้วยตัวเองต่อการเสียชีวิตของพลเรือนจากการโจมตีของกองทัพสหรัฐ
โดยการส่งโดรนโจมตีดังกล่าวในกรุงคาบูลของสหรัฐเกิดขึ้น 3 วัน หลังจากมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มไอเอสได้ก่อเหตุโจมตีบริเวณสนามบินในกรุงคาบูลที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงทหารสหรัฐด้วย 13 นาย
