ม็อบออสซี่ต้านล็อกดาวน์ ปะทะเดือด ตร.เจ็บ ผู้ประท้วงโดนรวบนับร้อย
เมื่อวันที่ 18 กันยายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้ประท้วงชาวออสเตรเลียยังคงออกมาชุมนุมต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองของทางการออสเตรเลีย ในนครเมลเบิร์นและนครซิดนีย์ จนเกิดการตะลุมบอนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระจายกำลังเข้ามาสกัดการชุมนุมบนท้องถนน เป็นผลให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายนาย ขณะที่ตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงในนครเมลเบิร์นไป 235 คน และในนครซิดนีย์อีก 32 คน
ตำรวจรัฐวิกตอเรียเปิดเผยว่า เหตุปะทะกันทำให้มีตำรวจ 6 นาย ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล และอีกหลายนายที่ถูกผู้ประท้วงน็อกล้มคว่ำลงกับพื้นและถูกกระทืบ
กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านราว 700 คน ได้รวมตัวกันในหลายจุดของนครเมลเบิร์น เมืองเอกของรัฐวิกตอเรีย ขณะที่มีกำลังตำรวจ 2,000 นาย เข้ารักษาการณ์ตามจุดต่างๆ ใจกลางเมืองที่กลายเป็นเขตห้ามเข้า โดยมีการตั้งจุดตรวจและนำเครื่องกีดขวางมาวางกั้น ขณะที่ระบบขนส่งมวลชนและการโดยสารร่วมทั่วเมืองถูกระงับ
ที่นครซิดนีย์ เมืองเอกรัฐนิวเซาท์เวลส์ ตำรวจปราบจลาจล ตำรวจลาดตระเวนทางหลวง หน่วยสืบสวนและตำรวจปฏิบัติหน้าที่ทั่วไปถูกระดมมารักษาการณ์บนท้องถนนเพื่อป้องกันการชุมนุมกันของผู้ประท้วงเช่นกัน
ทั้งนี้ ออสเตรเลียได้ต่อสู้รับมือกับการระบาดหนักของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลต้ามาตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยทั้งซิดนีย์ เมลเบิร์น และกรุงแคนเบอร์รา อันเป็นเมืองหลวง ตกอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์จนถึงขณะนี้
โดยมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในพื้นที่ข้างต้นจะยังคงบังคับใช้อยู่ต่อไปจนกว่าอย่างน้อย 70% ของประชาชนชาวออสเตรเลียในกลุ่มอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบโดสแล้ว ซึ่งหากอ้างอิงจากอัตราการฉีดวัคซีนของออสเตรเลียในขณะนี้ก็อาจจะไปถึงเป้าดังกล่าวได้ในปลายเดือนตุลาคมหรือต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ วันเดียวกันนี้ออสเตรเลียยังมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 1,882 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในนครซิดนีย์
