เยอรมันช็อก! ลูกค้าโหด ควักปืนเป่าขมองแคชเชียร์ปั๊มดับ เหตุขอให้สวมหน้ากากตามกฎโควิด
เมื่อวันที่ 21 กันยายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ชาวเยอรมนีต่างพากันช็อกกับเหตุการณ์สุดสลดเมื่อมีรายงานว่าแคชเชียร์ปั๊มน้ำมัน ซึ่งยังเป็นนักศึกษาชายวัยเพียง 20 ปี ถูกลูกค้าชายวัย 49 ปีรายหนึ่ง ควักปืนออกมายิงศีรษะดับคาที่ หลังจากเกิดการโต้เถียงกันเมื่อแคชเชียร์หนุ่มร้องขอให้ลูกค้าขาโหดคนดังกล่าวสวมหน้ากากป้องกันขณะเข้ามาซื้อเบียร์ที่ร้านในปั๊ม ซึ่งเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของทางการที่บังคับปฏิบัติในร้านค้าทั่วไปทั้งหมด
โศกนาฏกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเย็นวันเสาร์(18 ก.ย.) ที่ปั๊มน้ำมันในเมืองอีดาร์-โอเบอร์ชไตน์ ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งแรกในเยอรมนีที่เกี่ยวเนื่องกับมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล
การโต้เถียงเริ่มขึ้นหลังจากแคชเชียร์หนุ่มคนดังกล่าวบอกให้ลูกค้าชายรายนี้สวมหน้ากากป้องกัน แต่สร้างความฉุนเฉียวไม่พอใจให้ จนชายรายนี้เดินออกจากร้านไป ก่อนที่ราว 1 ชั่วโมงครึ่งต่อมา ชายรายนี้เดินกลับมาที่ร้านในปั๊ม โดยสวมหน้ากากมาด้วย แต่ขณะเขาหิ้วเบียร์ 1 แพคมาที่แคชเชียร์ ก็ได้ถอดหน้ากากออก แล้วมีการโต้ตอบกันอีก ซึ่งนายไค ฟัวร์มานน์ อัยการเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(20 ก.ย.)ว่า ผู้ก่อเหตุได้ชักปืนพกลูกโม่ออกมาและจ่อยิงเข้าที่ศีรษะของผู้ตาย
หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุรายนี้ได้เข้ามามอบตัวที่สถานีตำรวจในวันต่อมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จับกุมและผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพว่าเป็นผู้สังหารแคชเชียร์หนุ่มรายนี้
อัยการเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุสารภาพกับตำรวจว่า เขารู้สึกถูกต้อนให้จนมุมจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เขารู้สึกว่ากำลังลิดรอนสิทธิของเขามากขึ้น และเห็นว่า “ไม่มีทางออกอื่นแล้ว”
นายฟรังค์ ฟรูเฮาฟ์ นายกเทศมนตรีเมืองอีดาร์-โอเบอร์ชไตน์ กล่าวถึงโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่า เป็นเหตุการณ์น่ากลัวที่คาดไม่ถึง ขณะที่ชาวเมืองต่างนำดอกไม้มาวางและจุดเทียนไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตที่หน้าปั๊มน้ำมันดังกล่าว
