สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 22 ย่างเข้าสู่วันที่ 23 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนในเมืองชาร์ล็อตต์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวออกมารวมตัวประท้วงเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงชายผิวสีเสียชีวิต ต่อเนื่องเป็นคืนที่ 3 ขณะที่ผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสตั้งแต่การประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายน ได้เสียชีวิตลงแล้ว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนได้เดินขบวนไปในตัวเมืองพร้อมป้ายระบุว่า “หยุดฆ่าพวกเรา” และ “การต่อต้านคือความสวยงาม” ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากที่ลงพื้นที่คุมสถานการณ์
กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันเดินขบวนหลังคีธ ลามองต์ สก็อตต์ ชายชาวแอฟริกันอเมริกัน วัย 43 ปีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา นับเป็นเหตุเสียชีวิตของคนผิวสีที่มีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง เหตุการณ์ล่าสุดที่สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนผิวสีและเกิดความวุ่นวายมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง
ด้านผู้ว่าการรัฐนอร์ธแคโรไลนา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองชาร์ล็อตต์ ขณะที่เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงถูกส่งช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพิ่มเติมอีกหลายร้อยนายเช่นกัน
โดยก่อนหน้านี้ในช่วงค่ำเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่ผู้ชุมนุมประท้วงที่รวมตัวกันปิดถนน อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วง ประท้วงกันอย่างสงบ
รายงานระบุว่า ล่าสุดผู้ประท้วงที่ถูกประชาชนด้วยกันเองยิงเสียชีวิตในการประท้วงช่วงคืนวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลในวันเดียวกันนี้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงมีการวางดอกไม้และจุดเทียนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต บริเวณจุดที่ชายคนดังกล่าวถูกยิง ขณะที่มือปืนยังคงลอยนวล
ทั้งนี้ การประท้วงดังกล่าวมีขึ้นในวันเดียวกันกับที่เมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมา ตั้งข้อหาฆาตกรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่ก่อเหตุยิงนายเทเรนซ์ ครัตเชอร์ ชายผิวสีจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา
