‘ดอน’ หารือรมว.กต.สหรัฐ ‘บลิงเคน’ ย้ำ 2 ชาติเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง

‘ดอน’ หารือรมว.กต.สหรัฐ ‘บลิงเคน’ ย้ำ 2 ชาติเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง

เมื่อวันที่ 27 กันยายน ตามเวลาในสหรัฐ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อร่วมกันโดยบลิงเคนได้แสดงความยินดีที่ได้พบกันที่วอชิงตัน และได้ทำงานใกล้ชิดกันอีกครั้ง พร้อมย้ำว่าสหรัฐกับไทยถือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีพื้นฐานมาจากประวัติศาสตร์ที่มีร่วมกันและรวมถึงอนาคตด้วย เรารวมกันเป็นหนึ่งด้วยความสนใจและค่านิยมร่วมกันมากมาย และยังทำงานร่วมกันทั้งในระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และผ่านอาเซียน เราทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในทุกเรื่อง ตั้งแต่โควิด สภาพอากาศ ไปจนถึงความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค ไทยจะจัดประชุมผู้นำเอเปคในปีหน้า ซึ่งสหรัฐหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศไทยในเรื่องดังกล่าวด้วย

ด้านนายดอนกล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบกับบลิงเคนอีกครั้ง การหารือในวันนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์เกือบ 200 ปีระหว่างไทย-สหรัฐ โดยไทยเป็นชาติพันธมิตรชาติแรกของสหรัฐในเอเชีย และนี่เป็นเวลาที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไทยตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกับที่เราทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา

REUTERS

ขณะที่หลังการหารือสำนักงานของนายเน็ต ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้เผยแพร่รายละเอียดของการพูดคุยระหว่างรัฐมนตรีทั้งสองว่า ทั้งคู่ได้เน้นย้ำถึงพันธกรณีของสหรัฐและไทยตามสนธิสัญญาไมตรีระหว่างสองประเทศ การเอาชนะโควิด-19 และสนับสนุนให้เกิดการฟื้นฟูหลังการแพร่ระบาด ทั้งยังสนับสนุนประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในฐานะเสาหลักของค่านิยมที่มีร่วมกัน ทั้งสองตระหนักถึงภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เน้นย้ำถึงผลประโยชน์ของโลกในการกระชับความร่วมมือในเรื่องดังกล่าว รวมถึงส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ในฐานะที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคในปี 2565 ผู้นำทั้งสองจะได้หารือถึงหนทางที่จะบรรลุเป้าหมายเดียวกันในเรื่องการค้าการลงทุน การสร้างความเชื่อมโยง การเติบโตอย่างยั่งยืนและรวมทุกฝ่ายเข้าไว้ด้วยกัน

Advertisement

รัฐมนตรีทั้งสองยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในเมียนมา และจะทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อของผู้นำอาเซียน พร้อมกับร้องขอให้เมียนมายุติความรุนแรงทันทีและปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวโดยไม่มีเหตุผล

REUTERS
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image