ยูเอ็นชี้ปี 2050 คนกว่า 5 พันล้านประสบปัญหาการเข้าถึงน้ำจืด

แฟ้มภาพ เอเอฟพี

ยูเอ็นชี้ปี 2050 คนกว่า 5 พันล้านประสบปัญหาการเข้าถึงน้ำจืด

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่า ประชาชนมากกว่า 5,000 ล้านคนอาจเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงน้ำ และเรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลกยึดความคิดริเริ่มในการประชุมครั้งสำคัญว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกในกรอบยูเอ็น หรือ COP26

นายเพทเตอรี ตาลาส เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) แห่งสหประชาชาติ ระบุว่า “พวกเราต้องตื่นตัวกับวิกฤตน้ำที่ใกล้เข้ามาทุกที” ทั้งนี้รายงาน The State of Climate Services 2021: Water ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการเกษตร การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อมและประเด็นแวดล้อมอื่นๆ ถูกเผยแพร่ก่อนการประชุม COP26 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายนเพียงไม่กี่สัปดาห์

ดับเบิลยูเอ็มโอเน้นย้ำว่าในช่วง 20 ปีมานี้ะดับน้ำที่กักเก็บไว้บนดิน บนพื้นผิว ในใต้ผิวดิน ในหิมะและน้ำแข็ง ได้ลดลง 1 เซนติเมตรในแต่ละปี โดยพื้นที่ซึ่งปริมาณน้ำลดลงมากที่สุดเกิดขึ้นที่ทวีปแอนตาร์กติกาและเกาะกรีนแลนด์ แต่ในหลายพื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งน้ำในเขตละติจูดต่ำกว่าที่มีประชากรหนาแน่นจะเผชิญกับปัญหาการสูญเสียน้ำอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมีผลต่อเนื่องในเรื่องความมั่นคงของน้ำ ขณะที่น้ำจืดที่สามารถใช้ได้มีเพียง 0.5% ของน้ำบนโลกเท่านั้น

นายตาลาสระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำฝนในระดับภูมิภาคและทั่วโลก ทำให้ปริมาณน้ำฝนและฤดูกาลในการทำเกษตรกรรมเปลี่ยนไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์

Advertisement

ทั้งนี้จากการรายงานของดับเบิลยูเอ็มโอเปิดเผยว่า ในปี 2018 มีผู้คนมากถึง 3,600 ล้านคนไม่สามารถเข้าถึงน้ำได้อย่างน้อย 1 เดือนต่อปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image