เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทีมกู้ภัยไต้หวันสามารถช่วยชีวิตเหยื่อแผ่นดินไหวออกมาจากซากอพาร์ตเมนต์ เว่ยกวน จินหลง ที่ถล่มพังลงมาในเมืองไถหนานของไต้หวัน หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.4 เมื่อ 6 กุมพาพันธ์ ได้อีก 2 ราย หลังติดอยู่ใต้ซากตึกสูงหลังนี้มานานกว่า 50 ชั่วโมง ขณะที่เชื่อว่ายังอาจมีผู้สูญหายอีก 100 ราย ที่ยังคงติดอยู่ใต้ซากอาคารพักอาศัยหลังนี้ ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวก่อนวันฉลองตรุษจีนของไต้หวันมีการยืนยันอยู่ที่ 37 ราย
ผู้รอดชีวิต 2 รายล่าสุดที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาได้ คือ นายหลี่ ซง เถียน อายุ 40 ปี ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลาอยู่นานกว่า 20 ชั่วโมง ในความพยายามขุดดึงร่างออกมา เพราะขาของเหยื่อรายนี้ติดอยู่ใต้ซากตึกถล่ม ก่อนส่งแพทย์เข้าไปประเมินสถานการณ์ว่าควรจะตัดขาทิ้งเพื่อช่วยให้รอดก่อนหรือไม่ แต่ติดที่พื้นที่แคบไม่สะดวกต่อการผ่าตัด ทว่าที่สุดนายหลี่ก็ได้รับการช่วยออกมาได้ และอาจต้องเสียขาข้างหนึ่งไป โดยจากการเปิดเผยของนายวิลเลียม ไล นายกเทศมนตรีเมืองไถหนาน กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายหลี่หลังได้รบการช่วยเหลืออกมาแล้ว เขายังสื่อสารกับน้องสาวตนเองได้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะยังรักษาขาไว้ได้หรือไม่
ส่วนผู้รอดชีวิตอย่างเหลือเชื่ออีกรายคือ นางเส้า เว่ย-หลิง อายุ 45 ปี ซึ่งชุดกู้ภัยได้ช่วยเหลือพ้นออกจากซากตึกคอนกรีต หลังได้ยินเสียงร้องไห้ให้ช่วย โดยเหยื่อรายนี้มีอาการทรงตัว แต่ต้องเสียสามีและลูกวัยเพียงแค่ 10 วัน ไปในเหตุการณ์นี้ ขณะที่ลูกอีก 2 คนยังคงสูญหาย นอกจากนี้ ยังพบผู้รอดชีวิตอีก 2 คนที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากใต้ซากอาคารได้ เป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ และ ผู้หญิงอายุ 28 ปี โดย 2 รายหลังนี้ถือว่าติดอยู่ใต้ซากตึกถล่มนานกว่า 60 ชั่วโมง
ประธานาธิบดีหม่า อิง-จิ่ว ของไต้หวัน กล่าวหลังเข้าเยี่ยมผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลไถหนานว่า ยังคงมีหวังที่จะพบผู้รอดชีวิต แม้ 72 ชั่วโมงของโอกาสทองในการจะพบผู้รอดชีวิตจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม แต่เราจะพยายามต่อไปจนวินาทีสุดท้าย ด้านนายเหยิน ชุน-โซ รองนายกเทศมนตรีเมืองไถหนาน กล่าวว่า ยังคงมีผู้สูญหายกว่า 100 คน ที่คาดว่าติดอยู่ใต้ซากอาคาร ซึ่งทุกชีวิตถือเป็นความท้าทาย แต่ให้คำมั่นว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะไม่ยอมแพ้
ข่าวระบุว่า ทีมกู้ภัยไต้หวันระดมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ทั้งปั้นจั่น สว่าน บันได สุนัขดมกลิ่น และอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณชีพเพื่อนำมาใช้ในการติดตามค้นหาและช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบเหตุออกจากใต้ซาก และยังได้เตรียมจะใช้เครื่องมือขุดเจาะและเครื่องดูดสุญญากาศเพื่อเคลื่อนย้ายซากคอนกรีตขนาดยักษ์ออกไปในทันทีเมื่อพบสัญญาณผู้รอดชีวิต
ฝ่ายอัยการไต้หวันเริ่มสอบสวนการพังถล่มของอพาร์ตเมนต์ที่พักหลังนี้แล้ว หลังจากมีความกังขาถึงมาตรฐานความปลอดภัยของการปลูกสร้างอาคารจากเหยื่อผู้ประสบภัย ครอบครัวและจากสื่อมวลชน
