วอชิงตันงดให้บริการรถไฟใต้ดินเกือบ 60% หลังพบข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ตกราง
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การขนส่งเขตวอชิงตัน (ดับเบิลยูเอ็มเอทีเอ) ถูกสั่งห้ามใช้รถไฟเกือบ 60% ของระบบทั้งหมด หลังจากตรวจพบข้อบกพร่องที่คล้ายกับสาเหตุที่ทำให้รถไฟตกรางเมื่อสัปดาห์ก่อน
ดับเบิลยูเอ็มเอทีเอ หน่วยงานที่ให้บริการระบบรถไฟใต้ดินในกรุงวอชิงตัน ดี.ซีและหลายพื้นที่ของรัฐแมรีแลนด์และเวอร์จิเนียระบุว่า “หากนำรถไฟที่มีปัญหาออกไปจะเหลือรถไฟให้บริการในวันพรุ่งนี้เพียง 40 ขบวน ซึ่งเพียงพอที่จะให้บริการรถไฟใต้ดินในทุกเส้นทาง โดยรถไฟจะออกทุกๆ 30 นาที”
ตารางเวลาเช่นนี้อาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าในช่วงเวลาเร่งด่วน และในวันเดียวกันนั้นโรงเรียนต่างๆในกรุงวอชิงตันแจ้งนักเรียนผ่านทางทวิตเตอร์ว่าให้เตรียมพร้อมสำหรับรถไฟที่ล่าช้าทั้งขาไปและขากลับจากโรงเรียน
การระงับใช้รถไฟบางส่วนเกิดขึ้นจากการสอบสวนที่ยังดำเนินอยู่ของคณะกรรมการความปลอดภัยทางระบบขนส่งแห่งชาติ (เอ็นทีเอสบี) ในเหตุรถไฟสายสีน้ำเงินของดับเบิลยูเอ็มเอทีเอตกรางบริเวณระหว่างสถานีโรสลินและสถานีสุสานอาร์ลิงตันเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ทางคณะกรรมการความปลอดภัยทางรถไฟของวอชิงตันเปิดเผยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมว่า ได้สั่งให้นำรถไฟรุ่น 7000 ออกภายในเวลา 05.00 น.ของวันที่ 18 ตุลาคม หลังจากที่เอ็นทีเอสบีพบข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับระยะห่างของล้อบนเพลารถไฟรุ่น 7000″