สหรัฐชี้อาเซียนซัมมิทไม่เชิญผู้นำทหารเมียนมามีความหมาย แต่ยังไม่พอ
สหรัฐชี้การตัดสินใจไม่เชิญพลเอกอาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา และผู้นำการยึดอำนาจ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมียนมาคนปัจจุบัน เข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซียนที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าเป็นเรื่องที่มีความหมาย แต่จำเป็นต้องมีการดำเนินการที่มากขึ้นเพื่อจัดการกับความท้าทายที่เมียนมาเผชิญหลังการยึดอำนาจโดยกองทัพ
นายเอ็ดการ์ด คาแกน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านเอเชียตะวันออกและโอเชเนียของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวระหว่างร่วมงานของศูนย์ยุทธศาสาตร์และการศึกษานานาชาติว่า เรื่องดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงย่างก้าวที่มีความหมาย
“อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่ามันยังไม่เพียงพอ เพราะยังต้องจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นหลังการยึดอำนาจ และความยากลำบากที่ประชาชนชาวเมียนมากำลังเผชิญอันเนื่องจากการยึดอำนาจนั้น ซึ่งผมจำเป็นต้องมีความพยายามที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมยิ่งขึ้น”คาแกนกล่าว แต่เขาไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจำเป็นต้องมีการดำเนินการในขั้นตอนใดต่อไป
คาแกนกล่าวว่า การจัดการกับปัญหาที่เมียนมากำลังเผชิญจำเป็นต้องมีความร่วมมือจากชาติในอาเซียนรวมถึงชาติพันธมิตรนอกภูมิภาค เพราะสถานการณ์ที่เป็นอยู่ไม่สามารถจะดีขึ้นได้เอง และสหรัฐจะทำงานร่วมกับอาเซียนในเรื่องดังกล่าว
“ขณะนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังมีความผิดหวังและไม่พอใจเพิ่มขึ้นในอาเซียนต่อสถานการณ์ในเมียนมา และยังมีความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นด้วย ความจริงก็คือคุณภาพในด้านการบริหารประเทศในเมียนมาตกลงอย่างฮวบฮาบ และทำให้ชาวเมียนมาต้องเผชิญกับความท้าทายที่ผิดปกติ”คาแกนกล่าว
ด้านนายดีเรค โคลเลท ที่ปรึกษาอาวุโสของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งกำลังอยู่ในภูมิภาคอาเซีนเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องเมียนมา ก่อนหน้าการประชุมสุดยอดอาเซียนจะเริ่มขึ้นทวีตว่า เขาได้หารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานด้านการเงินของสิงคโปร์ว่าจะควบคุมไม่ให้รัฐบาลทหารเมียนมาเข้าถึงทรัยพ์สินในต่างแดนได้อย่งไร
