รัฐบาลทหารเมียนมาฟาดกลับทูตพิเศษยูเอ็น ตอกใช้แหล่งข่าวไม่น่าเชื่อถือ-มีอคติ
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมาออกแถลงการณ์ร่ายยาว โต้กลับรายงานของผู้แทนพิเศษสองรายขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เกี่ยวกับปัญหาเมียนมา โดยชี้ว่ารายงานของทูตพิเศษยูเอ็นดังกล่าวใช้แหล่งข่าวที่่ไม่น่าเชื่อถือ เป็นการกล่าวหาไปทั่ว และ เป็นการละเมิดอธิปไตยของเมียนมา
ในแถลงการณ์นี้ของกระทรวงต่างประเทศเมียนมาที่ออกเมื่อกลางดึกคืนวันอาทิตย์(24 ต.ค.)ที่ผ่านมา ระบุถึงรายงานของยูเอ็นเมื่อเร็วๆนี้และข้อคิดเห็นของนางคริสตีน ชราเนอร์ บูเกเนอร์ ทูตพิเศษยูเอ็น และนายทอม แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษของยูเอ็นเรื่องเมียนมาว่า เป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความเป็นจริง และสะท้อนให้เห็นถึงความอคติของยูเอ็น
“เมียนมายอมรับไม่ได้กับแรงจูงใจขององค์การที่พุ่งเป้ามาที่ประเทศและใช้สิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการจะเข้ามาแทรกแซงกิจการภายใน” แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเมียนมาระบุ และว่า ทูตพิเศษยูเอ็นใช้ข้อมูลยอดผู้เสียชีวิตที่ไม่น่าเชื่อถือ การกล่าวหาโดยปราศจากรายละเอียดที่ชัดเจน และทำให้ความรุนแรงที่กระทำโดยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลดูเบาลง
กระทรวงต่างประเทศเมียนมายังชี้่่ว่า นางชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ยังล้มเหลวที่จะกล่าวถึงการทุจริตการเลือกตั้งว่าเป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดกองทัพถึงต้องรยึดอำนาจ และว่า คำถามถึงความซื่อตรงของทูตพิเศษของเลขาธิการยูเอ็นและการประพฤติเช่นนั้นของเธอกำลังมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้นางชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ทูตพิเศษยูเอ็น ที่กำลังจะลงจากตำแหน่งหลังทำงานในบทบาทนี้มาเป็นเวลากว่า 3 ปี ออกมากล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า กองทัพเมียนมาไม่สนใจการประนีประนอมหรือการเจรจา และโอกาสสำหรับประชาคมระหว่างประเทศที่จะนำเมียนมากลับสู่หนทางเดินที่ถูกต้องกำลังแคบลง
ขณะที่ถ้อยคำกล่าวของนายแอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษยูเอ็น เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่กล่าวหาเมียนมาว่ามีการทรมาน จับกุมตามอำเภอใจ การอุ้มหาย และการทำให้พลเมืองจำนวนมากต้องพลัดถิ่นนั้น รัฐบาลทหารเมียนมาโต้ว่า ล้วนเป็นการกล่าวหาที่ตั้งอยู่บนคำบอกเล่าของแหล่งข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือ “เป็นที่น่าสังเกตว่ารายงานของผู้รายงานพิเศษเป็นการนำข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงมาสู่ข้อสรุปที่รวดเร็วและอันตราย”
ท่าทีล่าสุดของรัฐบาลทหารเมียนมามีขึ้นท่ามกลางการเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงจากกลุ่มอาเซียน ที่เมียนมาเป็นภาคีสมาชิกอยู่ด้วยเอง ซึ่งกำลังจะมีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคมนี้ โดยมีการตัดสินใจไม่เชิญพล.อ.อาวุโสมิน อ่อง ลาย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมประชุมซัมมิทครั้งนี้ด้วย
