เล่นไม่เลิก! มะกันถอนใบอนุญาต ‘ไชน่า เทเลคอม’ อ้างกระทบความมั่นคงแห่งชาติ
สหรัฐอเมริกาเพิกถอนในอนุญาตประกอบธุรกิจของไชน่า เทเลคอม บริษัทเทเลคอมที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยอ้างเหตุผลว่ามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยแห่งชาติของสหรัฐ ทำให้ไชน่า เทเลคอม จะต้องยุติการให้บริการในสหรัฐภายใน 60 วัน
คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐ (เอฟซีซี) ลงมติเพิกถอนในอนุญาตการประกอบธุรกิจของไชน่า เทเลคอม ในสหรัฐ โดยระบุว่า ไชน่า เทเลคอม เป็นเป้าหมายของการใช้ประโยชน์โดยไม่ถูกต้อง การสร้างอิทธิพลจูงใจ และการควบคุมโดยรัฐบาลจีน และมีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทจะถูกบังคับให้ทำตามคำขอของรัฐบาลจีน โดยปราศจากกระบวนการทางกฎหมายที่เพียงพอที่จะตรวจสอบความเป็นอิสระของบริษัทได้
เอฟซีซีให้เหตุผลว่ารัฐบาลจีนเป็นผู้ควบคุมบริษัท จึงเป็นโอกาสที่จะเข้าถึง เก็บรวมรวบ ทำให้เกิดความยุ่งเหยิงหยุดชะงัก หรือทำลายระบบสื่อสารโทรคมนาคมของสหรัฐได้ ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้มีการทำการจารกรรมข้อมูลหรือทำกิจกรรมอื่นๆ อันอาจเป็นอันตรายต่อสหรัฐ
ด้านไชน่า เทเลคอม ซึ่งทำธุรกิจให้บริการด้านโทรคมนาคมในสหรัฐมานานเกือบ 20 ปี ระบุว่า รู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจดังกล่าว แต่บริษัทวางแผนที่จะดูถึงความเป็นไปได้ทุกทางที่จะยังคงทำให้สามารถให้บริการลูกค้าของบริษัทได้ต่อไป
ทั้งนี้ ไชน่า เทเลคอม เป็น 1 ใน 3 บริษัทโทรคมนาคนของจีนที่ครองตลาดในประเทศ และจากเอกสารที่รายงานต่อรัฐสภาสหรัฐในปี 2019 บริษัทได้ให้บริการลูกค้ามากกว่า 335 ล้านคนในกว่า 100 ประเทศ ซึ่งรวมถึงการให้บริการกับหน่วยงานของรัฐบาลจีนในสหรัฐ โดยบริการของบริษัทมีตั้งแต่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงโทรศัพท์บ้าน
การตัดสินใจดังกล่าวยังมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นางเจเน็ต เยเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ โทรศัพท์หารือกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เกี่ยวกับสถานะเศรษฐกิจโลก ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างสองประเทศมหาอำนาจของโลก ซึ่งในระยะหลังมีการตอบโต้กันไปมาบ่อยครั้งตั้งแต่ประเด็นการค้า ความมั่นคง จนถึงเรื่องไต้หวัน
