ผู้นำจี 20 ถกแบบพบหน้าครั้งแรก เผย’การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ-โควิด’ วาระสูงสุด

นายมาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลี (ซ้าย) ต้อนรับนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ขณะเดินทางมาถึงเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม (รอยเตอร์)

ผู้นำจี 20 ถกแบบพบหน้าครั้งแรก เผย’การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ-โควิด’ วาระสูงสุด

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเป็นหนึ่งในวาระสำคัญที่ผู้นำกลุ่มจี 20 จะประชุมหารือกันที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 30-31 ตุลาคมนี้ ที่จะเป็นการประชุมผู้นำกลุ่มจี 20 ครั้งแรกแบบพบปะหน้ากันนับจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม การประชุมผู้นำจี 20 ครั้งนี้ ที่ประกอบด้วยชาติเศรษฐกิจชั้นนำ 19 ประเทศ และสหภาพยุโรป(อียู) จะไม่มีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เข้าร่วมด้วยตัวเองในการประชุมที่กรุงโรม แต่ผู้นำทั้งสองชาติจะร่วมหารือผ่านระบบวิดีโอลิงค์แทน นอกจากนี้ การประชุมครั้งนี้ยังมีขึ้นก่อนหน้าที่ผู้นำจากทั่วโลกจะเข้าร่วมการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 หรือ ค็อป26 (COP26) ที่เมืองกลาสโกว์ ในสก๊อตแลนด์ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ด้วย

การประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 มีขึ้นท่ามกลางเสียงเตือนภัยร้ายแรงสำหรับอนาคตหากไม่มีมาตรการเร่งด่วนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ก่อภาวะโลกร้อน

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวก่อนหน้าเข้าร่วมการประชุมกลุ่มจี 20 โดยแนะว่าความล้มเหลวที่จะดำเนินการใดๆ จะเป็นผลให้อารยธรรมของเราถดถอย จะส่งผลให้ชีวิตของคนรุ่นต่อไปน่าพึงใจน้อยกว่าของพวกเรา อย่างไรก็ดีนายจอห์นสันยอมรับว่า ไม่ว่าจะการประชุมจี 20 หรือการประชุมสุดยอดค็อป26 จะไม่หยุดภาวะโลกร้อนได้ โดยชี้ว่าสิ่งที่หวังจะทำได้มากที่สุดคือการชะลอการเพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อน

Advertisement

ทั้งนี้สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างร่างแถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมจี20 ที่จะมีออกมาในภายหลังที่รอยเตอร์ได้เห็นเนื้อหามาก่อนหน้าระบุว่า จะมีการให้คำมั่นจากกลุ่มจี 20ว่าจะทำงานมุ่งสู่เป้าหมายการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับในยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่การบรรลุความเห็นพ้องดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษยังคาดว่าที่ประชุมจะมีการถกถึงประเด็นความเหลื่อมล้ำของวัคซีน ที่เขาจะบอกกล่าวกับเพื่อนผู้นำว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถเอาชนะโควิดได้เร็วแค่ไหน โดยสิ่งสำคัญลำดับแรกคือการกระจายวัคซีนได้อย่างรวดเร็วเสมอภาคกันทั่วโลก

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกา จะผลักดันให้ประเทศผู้ผลิตพลังงาน ให้สนับสนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นท่ามกลางราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงติดจรวด ตลอดจนการหารือถึงแผนการป้องกันโรคระบาดใหญ่ในอนาคต

Advertisement

นอกจากนี้คาดว่ากลุ่มจี20 ยังจะให้การสนับสนุนการกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำที่ 15% ที่ได้รับการสนับสนุนจาก 140 ประเทศทั่วโลกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image