ผลสอบอัยการระหว่างประเทศชี้ชัด กลุ่มกบฏยูเครนใช้มิสไซล์รัสเซียยิงเอ็มเอช17ตก

REUTERS/Maxim Zmeyev/File Photo

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลการสอบเหตุเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน เอ็มเอช17 ที่ถูกยิงตกทางตะวันออกของประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ของอัยการระหว่างประเทศ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 กันยายน ระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าว ถูกยิงตกโดยกลุ่มกบฏทางตะวันออกของยูเครน ที่ใช้มิสไซล์บุ๊คซึ่งทำโดยรัสเซียในการยิง

ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุเครื่องบินเอ็มเอช17 กำลังมุ่งหน้าจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แต่ถูกยิงตกระหว่างทาง ทำให้ผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้ง 298 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งอัยการระบุว่า ระบบมิสไซล์บุ๊ค ที่ใช้ในการยิงเครื่องบินเอ็มเอช17 นั้น ถูกยิงออกมาจากหมู่บ้าน เปอร์โวเมย์สก์ หลังจากนั้นได้ถูกส่งกลับไปยังประเทศรัสเซียทันทีหลังจากใช้งานเสร็จ

อย่างไรก็ตาม อัยการระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยอัยการจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย เบลเยียม มาเลเซีย และยูเครน ไม่สามารถตั้งข้อหาใดๆได้ แต่ญาติของเหยื่อที่เสียชีวิตพยายามที่จะหารายละเอียดเกี่ยวกับเหตุดังกล่าวเพื่อนำไปดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุได้ เนื่องจากยังไม่มีใครออกมารับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

หนึ่งในญาติของเหยื่อระบุว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนยังได้ระบุชื่อผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 100 คนที่เกี่ยวข้องกับเหตุยิงเครื่องบินเอ็มเอช17
ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ผลการสอบสวนที่นำโดยทางการเนเธอร์แลนด์ สรุปได้ว่า เอ็มเอช17 ถูกกลุ่มกบฏในยูเครนยิงตก โดยใช้มิสไซล์บุ๊คในการยิง แต่ทางการรัสเซียออกมายืนยันว่ากลุ่มกบฏที่ฝักใฝ่รัสเซียในยูเครน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงเครื่องบินเอ็มเอช17

Advertisement

ขณะที่ผลการสอบล่าสุดที่ออกมา ทางการรัสเซียเองก็ยังคงออกมาปฏิเสธผลการสอบเช่นเคย โดยนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า ข้อมูลจากจอร์เรดาร์เหนือน่านฟ้าที่กลุ่มกบฏควบคุมอยู่ในขณะเกิดเหตุแสดงให้เห็นว่า ไม่มีจรวดใดๆ ถูกยิงออกมาขณะเกิดเหตุ หากมีการยิงจรวดยิงก็จะต้องมาจากที่อื่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image