เฟซบุ๊กประกาศยกเลิกใช้ระบบจดจำใบหน้า หลังถูกวิพากษ์ละเมิดความเป็นส่วนตัว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน บริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์ประกาศว่า จะยกเลิกการใช้ระบบจดจำใบหน้าซึ่งจะทำการระบุตัวตนผู้ใช้บนรูปและวิดีโอ หลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเช่นนี้
นายเชโรม เปอซองติ รองประธานฝ่ายปัญญาประดิษฐ์ของเฟซบุ๊ก ระบุผ่านบล็อกว่า “หน่วยงานกำกับดูแลยังอยู่ในระหว่างการจัดทำกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่กำลังดำเนินอยู่ เราเชื่อว่าการจำกัดการใช้ระบบจดจำใบหน้าไปเป็นมาตรการที่เหมาะสม”
นักวิจารณ์ระบุว่า เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าซึ่งได้รับความนิยมในธุรกิจกลุ่มค้าปลีก โรงพยาบาลและธุรกิจอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย อาจละเมิดความเป็นส่วนตัว กดขี่กลุ่มคนชายขอบ และทำให้การสอดแนมกลายเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ไอบีเอ็มได้ยุติการขายผลิตภัณฑ์ระบบจดจำใบหน้าอย่างถาวร ส่วนบริษัทไมโครซอฟต์ คอร์ปและบริษัทแอมะซอนได้ระงับการขายระบบดังกล่าวให้กับตำรวจอย่างไม่มีกำหนด
ทั้งนี้ทางเฟซบุ๊กได้ระบุว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของผู้ใช้ในแต่ละวันได้เลือกใช้การตั้งค่าการจดจำใบหน้าบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย และการเปลี่ยนแปลงนี้จะลบเทมเพลตการจดจำใบหน้าของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีมากกว่า 1,000 ล้านคน โดยคาดว่าจะนำระบบดังกล่าวออกได้ทั้งหมดภายในเดือนธันวาคมนี้