ชาวเมืองฟลินท์เฮ! ศาลสหรัฐสั่งชดเชยเงินกว่า 2 หมื่นล้านบ. ให้เหยื่อใช้น้ำปนเปื้อนสารตะกั่ว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ผู้พิพากษาสหรัฐตัดสินให้รัฐมิชิแกนจ่ายเงินยอมความรวม 626 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,614 ล้านบาท) ให้กับผู้อยู่อาศัยในเมืองฟลินท์ รัฐมิชิแกน เนื่องจากในอดีตน้ำประปาของเมืองนี้ปนเปื้อนสารตะกั่ว จนเป็นเหตุให้ผู้คนในเมืองล้มป่วยและเสียชีวิต
การจ่ายเงินชดเชยในครั้งนี้เป็นหนึ่งในการตกลงยอมความในคดีแพ่งครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของรัฐมิชิแกน โดยเงินจำนวนนี้ส่วนใหญ่จะถูกมอบให้กับคนที่อยู่ในช่วงเกิดวิกฤตน้ำดื่มในเมืองฟลินท์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองอุตสาหกรรม และมอบให้กับผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าอาการป่วยของตนเองเกิดจากสารตะกั่ว
นางจูดิธ เลวี ผู้พิพากษาของศาลรัฐมิชิแกน ระบุว่า การทำความตกลงกันได้นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในหลายเหตุผล ทั้งการกำหนดเงินชดเชยที่ครอบคลุมและสอดคล้องกับระยะเวลาของผู้ที่เข้าเกณฑ์ทุกคน
การตกลงยอมความนี้เริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมปี 2020 หลังจากมีการเจรจาต่อรองนาน 18 เดือน เงินจำนวนนี้ส่วนใหญ่มาจากรัฐมิชิแกน และบางส่วนมาจากเมืองฟลินท์และบริษัทวิศวกรรม
ในอดีตเมืองฟลินท์ เคยใช้น้ำจากทะเลสาบฮูรอน แต่เปลี่ยนมาใช้น้ำจากแม่น้ำฟลินท์แทน เพราะผู้ว่าการรัฐมิชิแกนในขณะนั้นต้องการที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย น้ำในแม่น้ำที่มีความเป็นกรดทำให้ระบบท่อประปาเป็นสนิมและทำให้ผู้อยู่อาศัยในเมืองต้องใช้น้ำที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว ในช่วงเวลานั้นมีเด็กราว 18,000 – 20,000 คนที่อยู่ในเมืองฟลินท์ และมีเด็กหลายพันคนที่มีอาการป่วยหนักหลายสิบปีจากการใช้น้ำที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรครีเจียนแนร์ โรคติดเชื้อที่เกิดจากน้ำที่ปนเปื้อนสารพิษ อย่างน้อย 12 ราย
ในปัจจุบันผู้คนในเมืองยังคงดื่มน้ำดื่มขวดอยู่แม้ว่าจะเปลี่ยนไปใช้น้ำจากทะเลสาบแล้วและมีการเปลี่ยนท่อประปาที่มีสารตะกั่วเกือบหมดแล้ว
ปัญหาน้ำของเมืองฟลินท์เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความอยุติธรรมต่อคนผิวสีในสหรัฐ โดย 57%ของผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 100,000 คนในเมืองฟลินท์เป็นคนผิวสี
