| ที่มา | นสพ.มติชน รายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ชาคร ศิริสุวรรณสิทธิ์ |
| เผยแพร่ |
ชิมอน เปเรส อดีตประธานาธิบดีอิสราเอลผู้ล่วงลับ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสองสมัย เสียชีวิตลงแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงผลงานผ่านหน้าประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะความพยายามในการสร้างสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ลบภาพนักการเมืองสายเหยี่ยวในอดีตลง
เปเรสเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในการทำ “ข้อตกลงสันติภาพออสโล” ที่บรรลุความตกลงฉบับที่ 1 และ 2 ในปี ค.ศ.1993 และ 1995 ตามลำดับ นั่นส่งผลให้เปเรส รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ร่วมกับ นายยิตซัค ราบิน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และ นายยัตเซอร์ อาราฟัต ผู้นำปาเลสไตน์ ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ในปี 1994 นอกจากนั้น เปเรสยังมีส่วนสำคัญในการทำสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างอิสราเอล กับอียิปต์ และจอร์แดน ด้วย
ล่าสุด เปเรสก็ยังคงยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาอิสราเอล ปาเลสไตน์ ว่าสันติภาพคือทางเดียวที่จะยุติความขัดแย้งได้
“ผมคิดว่ามันเป็นทางเดียวที่เป็นไปได้ที่นำไปสู่การยุติความหวาดกลัว ความวุ่นวาย และความเกลียดชัง” เปเรสระบุกับนิตยสารไทม์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เปเรสเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดสายเหยี่ยวก่อนที่จะเปลี่ยนแนวทางเป็นสายพิราบ การเปลี่ยนแปลงซึ่งเปเรสระบุว่าเกิดขึ้นในปี 1977 หลังนายอันวาร์ ซาดัต ประธานาธิบดีอียิปต์ เดินทางเยือนกรุงเยรูซาเลมครั้งประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ซึ่งนำไปสู่การทำสนธิสัญญาสันติภาพอาหรับ-อิสราเอลเป็นครั้งแรก
“ผมไม่ได้เปลี่ยน ผมคิดว่าสถานการณ์เปลี่ยน” เปเรสระบุกับนิตยสารไทม์ และว่า “นานตราบเท่าที่มีอันตรายต่อการมีอยู่ของอิสราเอลผมเป็นอย่างที่คุณเรียกว่าเหยี่ยว แต่ในนาทีที่ผมรู้สึกว่าชาติอาหรับเปิดรับที่จะให้มีการเจรจา ผมก็บอกว่านั่นก็คือสิ่งที่เราต้องการเช่นกัน”
เปเรสเกิดในโปแลนด์ ในปี 1923 ก่อนอพยพมาอยู่ในพื้นที่ซึ่งในเวลานั้นเรียกว่าดินแดนปาเลสไตน์ในอาณัติของอังกฤษ ขณะที่มีอายุได้ 11 ปี
เปเรสเข้าร่วมขบวนการไซออนิสต์ ในการนำชาวยิวคืนสู่มาตุภูมิประวัติศาสตร์ในดินแดนปาเลสไตน์ ในปี 1940 ก่อนจะได้พบกับ เดวิด เบนกูเรียน ผู้ที่กลายเป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนแรก และเป็นที่ปรึกษาให้กับเปเรสเองด้วย
เปเรสผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งประเทศอิสราเอลได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 1959 ก่อนจะได้ดำรงตำแหน่ง
สำคัญๆ ต่อเนื่องยาวนาน 5 ทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 1984-1986 และอีกครั้งในปี 1995-1996 หลังนายราบิน ถูกลอบสังหารโดยชาวยิวหัวรุนแรง ก่อนที่เปเรสจะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2007-2014 นอกจากนั้น เปเรสยังผ่านการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ กลาโหม และคลัง มาก่อนหน้านี้ด้วย
