ญี่ปุ่นพิจารณาปล่อยน้ำมันในคลังสำรอง หวังคุมราคา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงสำนักข่าวเกียวโดว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองเพื่อรับมือกับราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นจะปล่อยน้ำมันในคลังสำรองเพื่อให้ราคาน้ำมันลดลง โดยในอดีตญี่ปุ่นจะใช้น้ำมันสำรองดังกล่าวเมื่อต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในต่างประเทศ
หลังจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาซึ่งกำลังเผชิญกับคะแนนนิยมที่ตกต่ำและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้พิจารณาที่จะปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองเพื่อระงับราคาพลังงานที่สูง และยังได้ร้องขอให้จีนร่วมพิจารณาปล่อยน้ำมันดิบในคลังเป็นครั้งแรกด้วย
ผู้ที่มีความคุ้นเคยกับกรณีนี้กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ญี่ปุ่นมีปฏิกิริยาในเชิงบวกต่อการขอความร่วมมือของสหรัฐ ในเรื่องการปล่อยน้ำมันสำรอง และกำลังพิจารณาขั้นตอนดังกล่าว
นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุว่า “เราจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดพลังงานโลกและเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างไร และเรียกร้องให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพิ่มการผลิตน้ำมัน เราจะพยายามทำให้ตลาดพลังงานมีเสถียรภาพโดยการประสานงานกับประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ”
ญี่ปุ่นซื้อน้ำมันส่วนใหญ่จากประเทศในตะวันออกกลาง เมื่อราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นและค่าเงินเยนที่อ่อนค่าทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นที่พึ่งพาการค้าถึง 2 เท่า
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ เปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 490,000 ล้านดอลลาร์ (16 ล้านล้านบาท) รวมถึงมาตรการแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้น โดยมีแผนที่จะอุดหนุนโรงกลั่นน้ำมัน หวังจะจำกัดราคาขายส่งน้ำมันเบนซินและราคาเชื้อเพลิงเพื่อบรรเทาปัญหาให้กับภาคครัวเรือนและบริษัทจากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น
