ไม่จบง่าย! ประท้วงกฎคุมเข้มโควิดลามทั่วยุโรป
การประท้วงเพื่อต่อต้านมาตรการคุมเข้มสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรปยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง กลุ่มผู้ประท้วงยังคงออกมาเดินขบวนแสดงจุดยืนตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงที่ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในยุโรปในระยะหลังได้เพิ่มสูงขึ้น จนองค์การอนามัยโลกออกมาแสดงความวิตกกังวลแล้วก็ตาม
ในเบลเยียม ผู้คนหลายหมื่นคนได้ออกมาประท้วงในกรุงบรัสเซลล์เพื่อต่อต้านมาตรการคุมโควิด โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้ขว้างปาพลุไฟใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำใส่ ประเด็นหลักที่ผู้ประท้วงคัดค้านคือการกำหนดให้ใช้โควิดพาส เพื่อห้ามมิให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข้าใช้บริการสถานที่บางแห่ง อาทิ ร้านอาหารและบาร์
ทางการเบลเยียมยังประกาศเพิ่มมาตรการการบังคับใช้การสวมใส่หน้ากากอนามัยให้เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งรวมถึงในสถานที่อย่างร้านอาหารที่มีการบังคับให้แสดงโควิดพาสอยู่แล้ว ปัจจุบันชาวเบลเยียมส่วนใหญ่ก็ทำงานจากบ้านพัก 4 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะยืนยาวไปถึงกลางเดือนธันวาคม นอกจากนี้ยังมีการวางแผนว่าจะกำหนดให้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขทุกคนต้องฉีดวัคซีนต้านโควิดด้วย
ที่เนเธอร์แลนด์ การประท้วงยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นคืนที่สองในอีกหลายเมืองทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งสวมเสื้อผ้าปิดบังใบหน้าได้จุดไฟเผามอเตอร์ไซค์ในกรุงเฮก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลได้ใช้ม้า สุนัข และกระบองเพื่อขับไล่ผู้ประท้วงออกไป โดยได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเฮก และมีรายงานผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 7 คน
ตำรวจเนเธอร์แลนด์ระบุว่าได้มีการปาหินใส่กระจกรถพยาบาลที่กำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ในอีกเมืองหนึ่งทวีตว่ามีตำรวจ 5 นายที่ได้รับบาดเจ็บ โดยหนึ่งรายต้องถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลเพื่อไปรักษาเข่าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้เนเธอร์แลนด์ได้ประกาศมาตรการล็อคดาวน์บางส่วนเป็นเวลาสามสัปดาห์ตั้งแต่เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ร้านอาหารและบาร์จะต้องปิดทำการในเวลา 20.00 น. และห้ามไม่ให้ผู้คนเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬา
การประท้วงยังเกิดขึ้นในกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย ซึ่งมาตรการล็อคดาวน์ครั้งใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์นี้ โดยจะกินเวลา 20 วัน พร้อมสั่งให้คนทำงานจากบ้าน โดยกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องหาเสรีภาพพร้อมกับตะโกนแสดงจุดยืนต่อต้านคำสั่งดังกล่าว
