สหรัฐประเดิมน้ำมันสำรอง 32 ล้านบาร์เรล ส่อทำน้ำมันดิบล้นตลาด คาดโอเปคพลัสลดการผลิต

แฟ้มภาพ เอเอฟพี

สหรัฐประเดิมน้ำมันสำรอง 32 ล้านบาร์เรล ส่อทำน้ำมันดิบล้นตลาด คาดโอเปคพลัสลดการผลิต

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ถึงความคืบหน้ากรณี สหรัฐอเมริกา ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรวมตัวกับ จีน ผู้นำเข้าน้ำมันอันดับ 1 ของโลก, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักร เพื่อร่วมกันปล่อยน้ำมันสำรองจากคลังปิโตรเลียมสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) ของแต่ละประเทศออกสู่ตลาดเพื่อดึงราคาน้ำมันให้ลดต่ำลง ป้องกันภาวะเงินเฟ้อที่กำลังพุ่งสูงในหลายประเทศทั่วโลก โดยสหรัฐอเมริกาประเดิมประกาศปล่อยน้ำมันสำรอง 58 ล้านลิตร เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

หลังการประกาศท่าทีอย่างเป็นทางการ รัฐบาลอเมริกันก็เริ่มดำเนินการตามประกาศทันที ด้วยการเริ่มกระบวนการสวอปน้ำมันดิบมาร์ส ซึ่งเป็นน้ำมันดิบชนิดที่มีกำมะถันสูง โดยกระทรวงพลังงาน (ดีโออี) เปิดประมูลล็อตแรกอย่างน้อย 32 ล้านบาร์เรล จากคลังเอสพีอาร์ 4 แห่ง ประกอบด้วยคลังบิ๊กฮิลล์และไบรอันมาวด์ ในเท็กซัส แห่งละ 10 ล้านบาร์เรล, คลังเวสต์แฮคเบอร์รี ในหลุยเซียนา 7 ล้านบาร์เรล กับอีกราว 5 ล้านบาร์เรล จากคลังบายูชอคทอว์ ในหลุยเซียนาเช่นกัน โดยกำหนดการส่งมอบน้ำมันที่ประมูลได้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมหรือต้นเดือนมกราคม เรื่อยไปจนถึงเมษายน กำหนดส่งน้ำมันคืนคลังสำรองได้ระหว่างปี 2565 ไปจนถึงปี 2567 หลังจากนั้นก็จะมีการเปิดประมูลอีก 18 ล้านบาร์เรล อย่างช้าที่สุดไม่เกิน 17 ธันวาคมนี้
รายงานข่าวอ้างผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเลือกปล่อยน้ำมันดิบมาร์สของสหรัฐอเมริกาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประเทศผู้นำเข้ามันดิบในเอเชียมากเป็นพิเศษ เพราะมีโรงกลั่นที่สามารถกลั่นน้ำมันชนิดนี้ได้ และจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบมาร์สในตลาดโดยตรง ทั้งๆ ที่เดิมทีมาร์ส ราคาต่ำกว่าน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ อยู่ก่อนแล้ว 3.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันไม่ชัดเจนนัก โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกวันเดียวกันนี้อ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนพากันชะลอการเข้าซื้อ เพื่อดูปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน โอเปคพลัส ที่แน่ชัด โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 7 เซนต์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 82.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 14.26 น.วันนี้ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ดับเบิลยูทีไอ ลดลงอีก 19 เซนต์ มาอยู่ที่ 78.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่อ่อนตัวลง 11 เซนต์ เมื่อปิดตลาดวันก่อนหน้า

รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวหลายทางระบุตรงกันว่า โอเปคพลัสยังไม่มีท่าทีใดๆ อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการปล่อยน้ำมันสำรองของชาติผู้บริโภครายใหญ่ในครั้งนี้ และปฏิเสธรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า โอเปคพลัส กำลังหารือซึ่งกันและกันเพื่อระงับโครงการเพิ่มการผลิตน้ำมันของกลุ่มเดือนละ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ทุกๆ เดือนลง เพื่อตอบโต้สหรัฐและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดอีกครั้ง

Advertisement

นักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ประเมินว่า การประสานงานกันปล่อยน้ำมันสำรองหนนี้จะส่งผลให้มีน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้นราว 70-80 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ทีมวิเคราะห์ของธนาคาร เอเอ็นซี ระบุว่า ปริมาณน้ำมันที่เพิ่มสู่ตลาดในระดับ 70 ล้านบาร์เรล จะส่งผลให้เกิดภาวะล้นตลาดขึ้น ทำให้เชื่อว่าโอเปคพลัสต้องระงับโครงการเพิ่มผลผลิตน้ำมันสู่ตลาดในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นกันชนป้องกันอุปสงค์ลดและตรึงให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะกรรมการเศรษฐกิจของกลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่าการปล่อยน้ำมันสำรองของสหรัฐอเมริกาและประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกข้างต้น จะทำให้ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกล้นเกินในไตรมาสแรกของปีหน้า โดยคาดว่าปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 2.3 ล้านบาร์เรลในช่วงเดือนมกราคม และจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.7 ล้านบาร์เรลในเดือนกุมภาพันธ์ หากประเทศผู้นำเข้าน้ำมันปฏิบัติตามคำมั่นในการปล่อยน้ำมันสำรองของตนเองในช่วงเวลาดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image