สนามบินวุ่น! นักท่องเที่ยวแห่เผ่นออกจากแอฟริกาใต้ หลังนานาชาติประกาศแบน
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นักท่องเที่ยวที่มีสีหน้ากังวลรีบแห่เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติโจฮันเนสเบิร์ก ทางตอนเหนือของประเทศแอฟริกาใต้ พร้อมต่อแถวยาวเพื่อเตรียมกลับประเทศด้วยเที่ยวบินที่เหลือไม่กี่เที่ยวสุดท้าย หลังจากหลายประเทศเริ่มประกาศแบนเที่ยวบินจากประเทศแอฟริกาใต้และอีกหลายประเทศใกล้เคียง หลังจากมีรายงานพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ใหม่ ที่เรียกว่า โอไมครอน ซึ่งพบเป็นครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้
นักท่องเที่ยวหลายคนยกเลิกโปรแกรมเที่ยวและรีบเดินทางออกจากแอฟริกาใต้ในทันทีที่อังกฤษประกาศในช่วงคืนของวันที่ 26 พฤศจิกายน ว่าจะแบนเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้และประเทศใกล้เคียงในวันถัดไป
นายโทบี รี้ด นักธุรกิจวัย 24 ปี จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เดินทางมาตั้งแคมป์ที่ภูเขารูปโต๊ะ ที่กรุงเคปทาวน์ กับแฟนสาว ขณะที่มีการประกาศแบนเที่ยวบิน
“เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. เราตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นและในเวลา 06.00 น. เราพบว่ายังพอมีโอกาสที่เราจะกลับประเทศได้” นายรี้ดเล่าขณะต่อแถวเช็กอินที่สนามบินในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โดยทั้งคู่สามารถหาตั๋ว 2 ที่สุดท้ายได้ในช่วงเย็นเพื่อเดินทางไปยังเมืองแฟรงก์เฟิร์ตของเยอรมนี
อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ ที่โชคไม่ดีนักกำลังพูดคุยถึงตัวเลือกเที่ยวบินต่างๆ ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว และต้องตาโตเมื่อได้เห็นราคาตั๋ว และแผนการเดินทางที่ซับซ้อน
นอกจากนี้ เที่ยวบินของสายการบินเคแอลเอ็มที่มุ่งหน้าไปกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ล่าช้าไปหลายชั่วโมง หลังจากผู้โดยสารถูกบังคับให้ต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบอย่างกะทันหัน โดยนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องจ่ายเงิน 86 ดอลลาร์ (2,896 บาท) สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์ที่สนามบินซึ่งการันตีได้ผลภายใน 2 ชั่วโมง แทนที่จะจ่ายเพียง 52 ดอลลาร์ (1,784 บาท) ตามปกติซึ่งใช้เวลารอผล 12 ชั่วโมง
ล่าสุด มีรายงานว่าเที่ยวบิน 2 เที่ยวจากแอฟริกาใต้มายังกรุงอัมสเตอร์ดัม พบผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 61 คน จากทั้งหมดราว 600 คน และอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่
