สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลการจัดให้มีการลงประชามติเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ในประเทศโคลอมเบียว่าจะยอมรับข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มกบฏฟาร์กกลายเป็นข่าวช็อกโลก เมื่อชาวโคลอมเบียลงประชามติคว่ำข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อยุติสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมากว่า 52 ปี ด้วยคะแนนคัดค้านที่เกินครึ่งมาเพียง 50.24%
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส ของโคลอมเบีย และนายทิโมเลียน เจมิเนส ผู้นำกลุ่มกบฏฟาร์ก เพิ่งลงนามในข้อตกลงสันติภาพดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังการเจรจาต่อรองกันนานกว่า 4 ปี ซึ่งตามขั้นตอนแล้วจะต้องมีการลงประชามติเพื่อให้ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้
หลังทราบผลการประชามติ ประธานาธิบดีซานโตสได้ประกาศต่อชาวโคลอมเบียว่า ยอมรับผลการลงประชามติ แต่เขาจะยังคงเดินหน้าทำงานต่อไปเพื่อให้บรรลุซึ่งสันติภาพในประเทศ ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกันยังคงมีผลบังคับใช้ โดยเขาได้สั่งการให้ทีมเจรจาเดินทางไปยังคิวบาเพื่อพูดคุยกับผู้นำกลุ่มกบฏฟาร์กถึงการดำเนินการขั้นต่อไป
ประธานาธิบดีซานโตสย้ำว่า เขาจะไม่ยอมแพ้และจะยังคงหาทางให้เกิดสันติภาพจนถึงนาทีสุดท้าย เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เรามีประเทศดีขึ้นสำหรับคนรุ่นหลัง ด้านผู้นำกบฏฟาร์กก็ประกาศว่ายังคงยึดมั่นในข้อตกลงที่จะหาทางยุติสงครามกับรัฐบาลเช่นกัน
