มกุฎราชกุมารญี่ปุ่น ตำหนิสื่อ ลงข่าวบิดเบือน สะเทือนการสมรสของอดีตเจ้าหญิงมาโกะ
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าชายฟูมิฮิโตะ อากิชิโนะ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ทรงวิพากษ์วิจารณ์สื่อว่าบิดเบือนและทำสิ่งที่แย่มากๆ ในการรายงานข่าวเกี่ยวกับการเสกสมรสหมั้นหมายของอดีตเจ้าหญิงมาโกะ พระธิดาของพระองค์ ที่ได้สละฐานันดรศักดิ์ไปแล้ว หลังจากเสกสมรสกับนายเคอิ โคมูโระ คนรักสามัญชนไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
โดยเจ้าชายอากิชิโนะ พระอนุชาในสมเด็จพระจักรพรรดิ์นารุฮิโตะ แห่งญี่ปุ่น ทรงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ในระหว่างประทานสัมภาษณ์สื่อ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ครบ 56 พรรษาของพระองค์ว่า “หากคุณได้อ่านหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ ซึ่งข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าจะกล่าวเช่นไรดี แต่มีสิ่งต่างๆมากมายในนั้นที่เป็นการบิดเบือน แม้ยังมีบางความเห็นที่เราควรต้องรับฟังอยู่ด้วยก็ตาม” โดยทรงตอบเมื่อถูกทูลถามถึงการรายงานข่าวของสื่อ กับพระอาการของอดีตเจ้าหญิงมาโกะในขณะนั้น ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าประสบภาวะป่วยทางจิตใจจากการเผชิญเหตุกระทบกระเทือนใจอย่างรุนแรง หลังอดีตเจ้าหญิงมาโกะเผชิญกระแสต่อต้านจากสังคมต่อการจะเสกสมรสกับนายโคมูโระ หลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวทางการเงินของครอบครัว จนทำให้งานเสกสมรสของทั้งคู่ต้องเลื่อนออกไปถึง 3 ปี
มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่นทรงกล่าวด้วยว่า ในส่วนข้อเขียนทางอินเตอร์เน็ต ยังมีความเห็นมากมาย และบางส่วนของความเห็นเหล่านั้นกล่าวในสิ่งที่แย่มากๆ ซึ่งมีหลายคนต้องเจ็บปวดอย่างมากกับคำพูดให้ร้ายเหล่านี้
ต่อประเด็นที่ผู้สังเกตการณ์ด้านราชสำนักมองว่า กระแสต่อต้านการเสกสมรสของอดีตเจ้าหญิงมาโกะ อาจบรรเทาเบาบางลงได้ หากได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพโดยสำนักพระราชวังอิมพีเรียล ผู้ทำหน้าที่ถวายงานดูแลราชวงศ์ญี่ปุ่น ดังราชวงศ์ต่างประเทศอื่นๆ ซึ่งเจ้าชายอากิชิโนะ ทรงกล่าวว่า บางครั้งสำนักพระราชวังอิมพีเรียลได้จัดการแก้ไขข้อมูลผิดๆบนเว็บไซต์ ให้ถูกต้อง แต่พระองค์ยังตรัสเป็นนัยด้วยว่าอาจจำเป็นจะต้องทำให้มากกว่านี้ โดยต้องกำหนดมาตรฐานที่เหมาะสม และแสดงการประท้วงไปเมื่อมีอะไรที่มากเกินไป
มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่นทรงเผยด้วยว่า การยกเลิกพระราชพิธีสำคัญทั้งหมดในงานเสกสมรสของอดีตเจ้าหญิงมาโกะ เป็นการตัดสินพระทัยของพระองค์เอง โดยพระองค์ทรงรู้สึกว่าเรื่องอื้อฉาวทางการเงินของครอบครัวฝ่ายชายที่เกิดขึ้น ไม่ได้รับการชึ้แจงอย่างเพียงพอ แต่พระองค์ทรงคิดว่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมกว่า หากพวกเขาจะได้ใช้ชีวิตไปตามปกติ
