คอลัมน์ Think Tank: ข้อตกลงโอเปกยังน่ากังขา

บรรดานักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐอเมริกามีความหวัง แต่ยังคงกังขาว่าองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออกหรือโอเปก จะสามารถผลักดันราคาน้ำมันในระยะยาวได้ด้วยข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตหรือไม่

หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างรุนแรงส่งผลให้บรรดาผู้ผลิตน้ำมันภายในประเทศของสหรัฐต้องลดกำลังการผลิตลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างน้อยข้อตกลงดังกล่าวที่ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของโอเปกก็ช่วยผ่อนคลายความกดดันของผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐลงได้

เจฟฟรีย์ เอเชลแมน รองประธานอาวุโสของสมาคมปิโตรเลียมอิสระแห่งอเมริกาบอกว่า “ข่าวเรื่องข้อตกลงของโอเปกอาจทำให้ราคาน้ำมันถีบตัวขึ้นในระยะสั้น แต่จะยั่งยืนในระยะยาว จนทำให้เกิดความเชื่อมั่น ที่นำไปสู่การเพิ่มการลงทุนในโครงการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐหรือไม่ ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องรอดู”

ผลผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐสูงสุดที่ระดับ 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน 2558 อ้างอิงจากข้อมูลของรัฐบาล

Advertisement

น้ำมันดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากชั้นหินดินดานที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยข้อโต้แย้งที่เรียกว่า “แฟร็กกิ้ง” หรือการฉีดน้ำและสารเคมีด้วยแรงดันสูงเข้าไปที่ชั้นหินใต้ดินให้ปล่อยน้ำมันและก๊าซในชั้นหินออกมา

และจากการที่ราคาน้ำมันตกต่ำลง ผลผลิตน้ำมันในสหรัฐก็ร่วงลงตามไปด้วย โดยลดลง 12.5 เปอร์เซ็นต์ มาเหลือ 8.4 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ซึ่งนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่แกนนำของโอเปกอย่างซาอุดีอาระเบียคาดหวังให้เกิดขึ้น นั่นคือบีบให้ผู้ผลิตน้ำมันที่มีต้นทุนสูงกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐกับแคนาดา ออกจากตลาดไปเพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำมันล้นตลาด

Advertisement

บริษัทผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐจำนวนมากในสหรัฐ ต้องตัดงบการลงทุน ลดจำนวนพนักงานลงหลายพันตำแหน่ง โดยผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานที่มีต้นทุนสูงได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ลดลงไม่ได้ทำลายอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดานให้พังพาบ จากที่มีการคิดค้นเทคโนโลยีขุดเจาะแบบแฟร็กกิ้งที่ใช้ต้นทุนต่ำลงได้สำเร็จ ทำให้ยังคงมีกำไรจากกำลังการผลิตที่ลดลง

นอกจากนี้ ท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้กำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นอันดับ 1 ของโลก

ซึ่งเอเชลแมนบอกว่า นั่นเป็นเรื่องน่าแปลกใจของโอเปก

แพทริก โอแฮร์ นักเศรษฐศาสตร์ของบรีฟฟิ่งดอตคอมระบุว่า การประกาศถึงข้อตกลงของโอเปกคงทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่ต้องรอดูการประชุมของโอเปกในวันที่ 30 พฤศจิกายนว่า รายละเอียดที่ชัดเจนของข้อตกลงดังกล่าวจะออกมาเป็นรูปแบบไหน

ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่าราคาน้ำมันจะสูงขึ้นในระยะยาวหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image