WHO ชี้เด็กวัย 5-14 ปี เป็นกลุ่มติดโควิดสูงสุดในยุโรป

WHO ชี้เด็กวัย 5-14 ปี เป็นกลุ่มติดโควิดสูงสุดในยุโรป

สำนักงานขององค์การอนามัยโลกในยุโรปออกมาระบุว่า เด็กที่มีอายุ 5-14 ปี กลายเป็นกลุ่มที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุดในยุโรป หลังจากที่ยุโรปได้กลายเป็นศูนย์กลางในการแพร่ระบาดระลอกใหม่อีกครั้งในปัจจุบัน

ดร.ฮานส์ คลุ้ก ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า แม้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังต่ำกว่าช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักที่ยุโรปในครั้งก่อน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในขณะนี้ก็มากกว่าสองเดือนที่ผ่านมากว่า 2 เท่าภายใน 53 ประเทศที่องค์การอนามัยโลกรวมเข้าไว้ในภูมิภาคยุโรป แต่กินพื้นที่กว้างขวางไปจนถึงเอเชียกลาง

ดร.คลุ้กเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ปกป้องเด็กและโรงเรียนท่ามกลางการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการติดเชื้อของเด็กในยุโรป โดยในบางพื้นที่พบการติดเชื้อในเด็กเพิ่มมากขึ้นกว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ 2-3 เท่า แม้ว่าเด็กมีแนวโน้มที่จะมีอาการป่วยและรุนแรงน้อยกว่ากลุ่มเปราะบางอื่นๆ อย่างผู้ชรา บุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำก็ตาม

“เนื่องจากวันหยุดปิดภาคเรียนใกล้จะมาถึงแล้ว เราต้องรู้ว่าเด็กสามารถทำให้พ่อแม่รวมถึงปู่ย่าตายายที่บ้านติดเชื้อได้ ซึ่งผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น 10 เท่าที่จะป่วยหนัก ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต ความเสี่ยงทางด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นไปไกลกว่าตัวเด็กเองมาก” ดร.คลุ้กกล่าว

Advertisement

ดร.คลุ้กย้ำว่า ยังคงมีภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดในวงกว้างของไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในยุโรป และว่าจนถึงขณะนี้มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 432 คนจาก 21 ประเทศในภูมิภาคยุโรป

ดร.คลุ้กกล่าวว่า ไวรัสกลายพันธุ์เดลต้ายังเป็นไวรัสสายพันธุ์หลักที่พบได้ในยุโรปและเอเชียกลาง เราทุกคนต่างทราบดีว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ยังคงมีประสิทธิภาพในการลดอาการป่วยหนักและการเสียชีวิต อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังคงต้องรอดูกันต่อไปว่าไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนจะสามารถแพร่ระบาดได้มากกว่า และมีความรุนแรงมากหรือน้อยกว่าเดลต้าหรือไม่ การบังคับให้ทุกคนต้องฉีดวัคซีนควรเป็นทางเลือกสุดท้าย

องค์การอนามัยโลกระบุว่า ภูมิภาคยุโรปได้กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาต่อเนื่องหลายสัปดาห์แล้ว โดยจากสถิติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยุโรปมีผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมกันถึง 70% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด และมีจำนวนผู้เสียชีวิตคิดเป็น 61% ของผู้เสียชีวิตทั่วโลก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image