ตำรวจอินเดียเผย นักวิชาการกำลังตรวจสอบเป็น’อุกกาบาต’จริงหรือไม่ ที่คร่าชีวิตคนขับรถ!!!

เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ(เครดิตภาพจาก mirror.co.uk)

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานอ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ระหว่างนี้นักวิชาการของอินเดียกำลังตรวจสอบ”ซากวัตถุ”ที่หล่นจากฟ้าและเกิดระเบิด เป็นสาเหตุให้ชายพนักงานขับรถของวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐทมิฬนาฑู เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าเป็น”อุกกาบาต”จริงหรือไม่ ซึ่งถ้าหากมีหลักฐานยืนยันว่า วัตถุดังกล่าวเป็นอุกกาบาตจริง การเสียชีวิตของพนักงานขับรถนายนี้ก็จะเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกที่เชื่อว่า เสียชีวิตจากอุกกาบาต หรือวัตถุในอวกาศ ที่วิ่งผ่านชั้นบรรยากาศตกลงมาสู่พื้นโลก

จากข่าวอ้าง พี.เค.เซนธิล กุมารี หัวหน้าตำรวจในเขตเวลลอร์ ทางใต้ของรัฐทมิฬนาฑู เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า วัตถุดังกล่าวตกกระแทกพื้นดินในบริเวณวิทยาลัยด้านวิศวกรรมพาราธิสถาน เอนจิเนียร์ริ่ง เมื่อบ่ายวันเสาร์ ทำให้เกิดเสียงดังสนั่น และทำให้เกิดหลุมลึกราว 60 เซนติเมตร หรือ 2 ฟุต และแรงสั่นสะเทือนยังทำให้กระจกหน้าต่างรถบัสของวิทยาลัยหลายคันแตก อีกทั้งผลจากแรงระเบิดยังได้ทำให้นายกัมราช พนักงานขับรถวัย 40 ปีได้รับบาดเจ็บและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา และมีคนสวนอีก 2 ราย และนักศึกษาอีก 1 รายได้รับบาดเจ็บ และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

เซนธิล กุมารี กล่าวว่าระหว่างนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า วัตถุดังกล่าวเป็น อุกกาบาต หรือเป็นซากวัตถุอะไร และว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งชิ้นส่วนของซากวัตถุดังกล่าวไปให้ทีมเจ้าหน้าที่ของสถาบันดาราศาสตร์ของอินเดียตรวจวิเคราะห์แล้ว
“เราต้องรอผลการตรวจสอบเพื่อจะยืนยันว่า วัตถุนั้นเป็นอุกกาบาตจริงหรือไม่” เซนธิล กุมารี กล่าว

ทั้งนี้จากข่าวว่าทางรัฐทมิฬนาฑูได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ว่า ได้จ่ายเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวของพนักงานขับรถที่เสียชีวิตไป 10,000 รูปี หรือราว 51,984 บาท

Advertisement

อนึ่ง ซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า เมื่อปี 2556 ที่เมืองเชลยาบินสก์ของรัสเซีย ก็เคยเกิดดาวตกขนาดใหญ่ ที่ทำให้เกิดแสงไฟและเหมือนอุกกาบาตเล็กๆ ตกลงมาเต็มไปหมด ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 1,000 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต

 

เจ้าหน้าที่ี่กำลังช่วยกันเก็บซากวัตถุ(เครดิตภาพจาก mirror.co.uk)
เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันเก็บกวาดบริเวณจุดเกิดเหตุ(เครดิตภาพจาก mirror.co.uk)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image