การค้าโลกเผยมือมืดจงใจสกัดดีลวัคซีน

นาง เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวลา ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) (รอยเตอร์)

การค้าโลกเผยมือมืดจงใจสกัดดีลวัคซีน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม นาง เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวลา ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เปิดเผยว่า การทำความตกลงเพื่อให้มีการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้แพร่หลายและเป็นธรรมมากขึ้น ที่ดับเบิลยูทีโอ เป็นผู้สนับสนุนใกล้จะบรรลุความตกลงกันได้แล้ว แต่ยอมรับว่า มีความพยายามประสานงานกันเป็นกลุ่มก้อนของบางประเทศ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เกิดความตกลงดังกล่าว

ผู้อำนวยการดับเบิลยูทีโอ ระบุว่า ล่าสุดทางตนได้เปิดการเจรจากับตัวแทนระดับรัฐมนตรีจากประเทศอย่าง อินเดีย, แอฟริกาใต้, สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพื่อหาหนทางก้าวข้ามปัญหาสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา เกี่ยวกับกรณีนี้ เนื่องจากเห็นว่า การทำความตกลงเรื่องนี้เป็นความจำเป็น เพื่อเปิดให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีบางอย่างให้กับประเทศกำลังพัฒนา ให้สามารถนำสูตรวัคซีนไปผลิตเองได้ โดยที่บริษัทผู้ผลิตไม่ถูกฟ้องร้องจากเจ้าของสิทธิบัตร

หากสามารถจัดการเรื่องดังกล่าวได้ นางโอคอนโจ-อิเวลา เชื่อว่า จะช่วยลดช่องว่างมหาศาลของการฉีดวัคซีน ระหว่าง 8 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในทวีปแอฟริกากับ 67 เปอร์เซ็นต์ในบรรดาชาติพัฒนาแล้วลงได้ นอกจากนั้นยังจะช่วยให้ราคาของวัคซีนลดลงมาอยู่ในระดับที่สามารถซื้อหาได้และยังง่ายต่อการกระจายวัคซีนมากขึ้นอีกด้วย

“ความสะดวกในการใช้ ความง่ายต่อการกระจายและราคาที่ถูกลง หากเกิดขึ้นได้จะอำนวยประโยชน์ได้มากมายมหาศาล” ผู้อำนวยการดับเบิลยูทีโอระบุ “เราเข้าใกล้คำตอบมากแล้ว ใกล้บรรลุถึงแนวทางแก้ปัญหาแล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่ง ดูเหมือนว่า มีความพยายามทำงานประสานกันเป็นกลุ่มก้อนเพื่อสกัดเรื่องนี้ไม่ให้ประสบความสำเร็จ”

Advertisement

ทั้งนี้ อินเดีย กับ แอฟริกาใต้ เสนอให้มีการระงับสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของวัคซีนป้องกันโควิด รวมถึงกรรมวิธีรักษาอาการป่วยโควิด แต่สมาชิกที่เป็นชาติพัฒนาแล้วอย่างเช่น สหภาพยุโรป (อียู), อังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ ไม่เห็นด้วยโดยอ้างว่า การบังคับใช้กฏเกณฑ์ของดับเบิลยูทีโอ ที่มีอยู่แล้วซึ่งเปิดทางให้เจ้าของสิทธิบัตรให้สิทธิกับผู้ผลิตท้องถิ่นได้ เป็นวิธีที่ดีกว่า

ผู้อำนวยการดับเบิลยูทีโอ ระบุว่า ตนพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการเชื้อเชิญตัวแทนของชาติที่มีบทบาทสำคัญ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเชิงเทคนิคมาร่วมเจรจา จนพบทางออก มีการตกลงในกรอบการดำเนินการซึ่งอาจนำไปสู่ทางออกที่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย และกำลังพยายามทำความตกลงในรายละเอียด แต่แล้วก็พบว่า มีข้อมูลรั่วไหลออกไปสู่สื่อมวลชน ทำให้การเจรจาทั้งหมดหยุดชะงักลง เกิดความระแวงไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันขึ้น

“เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ แต่คิดว่าเป็นการจงใจที่จะยับยั้งการเจรจา ยับยั้งไม่ให้ได้คำตอบ ทั้งๆที่รู้ดีว่าชีวิคคนเป็นเรือนล้านขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ หลายทวีป รวมทั้งแอฟริกา รอเรื่องนี้อยู่” นางโอคอนโจ-อิเวลา กล่าว ก่อนยืนยันว่าจะทำงานเรื่องนี้ต่อไปจนกว่าจะเป็นผลสำเร็จ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image