ม.เท็กซัสชี้เดือนกุมภาฯ อเมริกันติดโอไมครอนพุ่ง 2.2 เท่า ตายเพิ่ม 1.2 เท่า
มหาวิทยาลัยเท็กซัส ที่เมืองออสติน สหรัฐอเมริกา อาศัยแบบจำลองเชิงคณิตศาสตร์ โดยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้เสียชีวิต เปอร์เซ็นต์การฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มกระตุ้น เพื่อคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตในช่วงเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2021 ในสถานการณ์ต่างๆดังนี้
สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด คือ เชื้อโอไมครอนสามารถแพร่เชื้อได้เท่าๆกับเดลต้าแต่สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน และการติดเชื้อได้มากกว่าเดลต้า กล่าวคือลดความสามารถในการป้องกันการติดเชื้อ 85% การเข้าโรงพยาบาล 32% และการเสียชีวิต 22% การระบาดของโอไมครอนอาจทำให้ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ยกเว้นแต่ว่าจะมีมาตรการในการชะลอการติดเชื้อ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ เราคาดการณ์ว่าจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดในระลอกนี้คือวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและจำนวนผู้เสียชีวิตสูงกว่าจุดสูงสุดเมื่อเดือนมกราคมปี 2021 ราว 2.2 เท่า 1.8 เท่า และ 1.2 เท่าตามลำดับ
สถานการณ์ที่ดีที่สุด คือ เชื้อโอไมครอนสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าเดลต้า 50% แต่หลบหลีกภูมิคุ้มกันได้น้อยกว่าเดลต้ามากๆ กล่าวคือลดความสามารถในการป้องกันการติดเชื้อเพียง 10% และไม่ได้ลดความสามารถในการป้องกันการป่วยหนักเลย เราคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโอไมครอนจะไม่รุนแรงนัก โดยจุดสูงสุดของระลอกนี้คือวันที่ 18 มกราคม 2022 ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและจำนวนผู้เสียชีวิตสูงกว่าจุดสูงสุดเมื่อเดือนมกราคมปี 2021 ราว 0.92 เท่า0.57 เท่า และ0.46 เท่าตามลำดับ
สถานการณ์ที่ 80%ของผู้ฉีดวัคซีนครบโดสไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภายในวันที่ 1 มีนาคม ปี 2022 ซึ่งสูงกว่าสมมติฐานที่ 57% เราคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและจำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลง 5% 12% และ13% ตามลำดับ ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อโควิดรวม 1.3 ล้านคน ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล 168,000 คนและผู้เสียชีวิต 39,000 คนระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2021-1 พฤษภาคม 2022
