ยูเอ็นประณาม ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของซาอุ ถล่มคุกในเยเมน ดับกว่า 70 ศพ
เมื่อวันที่ 22 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยกว่า 70 ศพ ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุดีอาระเบีย ถล่มเรือนจำในเมืองซาดา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎฮูตีในประเทศเยเมน เมื่อศุกร์(21 ม.ค.)ที่ผ่านมา โดยนายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าวในทันที
กลุ่มกบฎฮูตีที่มีอิหร่านให้การหนุนหลังอยู่ ได้เผยแพร่วิดีโอภาพเหตุการณ์อันน่าสยดสยองแสดงให้เห็นศพผู้คนจำนวนมากติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังและสภาพศพแหลกเละจากการถูกโจมตี
ด้านกองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุฯ เผยแพร่แถลงการณ์ปฏิเสธว่าไม่ได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มใส่เรือนจำแห่งดังกล่าว
สำนักข่าวซาอุเพรสอ้างนายทูร์กี อัล-มัลกี โฆษกของกองกำลังพันธมิตร กล่าวว่า รายงานที่ระบุว่าเป็นการเล็งเป้าโจมตีสถานที่ยึดครองของกลุ่มกบฎนั้นไร้หลักฐานและไม่มีมูลความจริงอย่างสิ้นเชิง
เรือนจำไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อไม่โจมตีตามที่เห็นพ้องกันไว้กับกลไกของสำนักงานกิจการมนุษยธรรมของยูเอ็นในเยเมนและไม่ได้มีรายงานจากคณะกรรมการกาชาดสากลแต่อย่างใด โดยนายอัลมากีกล่าวว่ากองกำลังพันธมิตรจะแบ่งปันข้อมูลข้อเท็จจริงและรายละเอียด ตลอดจนข้อมูลที่ผิดพลาดของสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานที่ดังกล่าวต่อทั้งสองหน่วยงานต่อไป
เลขาธิการยูเอ็นกล่าวประณามเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น และว่า จำเป็นจะต้องยุติการขยายวงความรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นด้วย
ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งลดความรุนแรงและปฏิบัติตามพันธะผูกพันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในกระบวนการสันติภาพที่นำโดยยูเอ็น
ทั้งนี้กองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุฯ ได้ทำการสู้รบกับกลุ่มกบฎฮูตีมาตั้งแต่ปี 2015 ส่งผลให้มีพลเรือนหลายหมื่นคน ที่เป็นเด็กมากกว่า 10,000 คน รวมอยู่ด้วย ถูกสังหารเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุสู้รบดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีประชาชนในเยเมนอีกหลายล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น ซึ่งจำนวนมากยังเผชิญกับภาวะอดอยากอย่างหนักด้วย
