รู้จัก เจ้าชายเจฟรี พ่อ ‘ฟาอิค โบลเกียห์’ แข้งเจ้าชายฉลามชล กับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างสุดขั้ว
ยังคงเป็นที่สนใจอย่างต่อเนื่องสำหรับ ฟาอิค เจฟรี โบลเกียห์ เจ้าชายผู้มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของกษัตริย์บรูไน ที่ได้ชื่อว่าเป็น “นักเตะที่ร่ำรวยที่สุดในโลก” ด้วยทรัพย์สิน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 668,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดมาค้าแข้งกับสโมสรชลบุรีเอฟซี อีกทั้งยังฝีเท้าดี จนกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
คลิกอ่าน 10 เรื่องน่ารู้ของนักฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลกและกำลังค้าแข้งอยู่ในศึก ‘ไทยลีก’
และที่สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยก็คือการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายด้วยห้องเช่าราคาเพียง 6,000 บาท และการออกมาเปิดเผยว่าใช้รถเพียงโตโยต้า ยาริส และเปิดเผยว่า ค่าเหนื่อยเดือนละ 100,000 บาทนั้น ยังใช้ไม่หมดในแต่ละเดือน ทั้งๆ ที่มีบัตรเครดิตวงเงิน 28 ล้านดอลลาร์ ที่พ่ออย่าง “เจฟรี โบลเกียห์” ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชาย สุลต่าน ฮัสซัน โบลเกียห์ กษัตริย์แห่งบรูไน เปิดเอาไว้ให้ตนก็ตาม
ด้วยชีวิตเรียบง่ายของแข้งเจ้าชายฉลามชล อาจยังไม่มีใครรู้ว่า เจฟรี โบลเกียห์ พ่อของฟาอิค ในวัย 67 ปี นั้นเคยขึ้นชื่อเรื่องการเป็น “เพลย์บอย” และการ “ใช้เงินมือเติบ” ชอบเอ็นเตอร์เทนสาวๆ จนสื่อทั่วโลกรายงานกันอย่างกว้างขวางมาแล้ว
รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศระบุว่า เจ้าชายเจฟรี โบลเกียห์ มีภรรยาทั้งหมด 5 คน เลิกไปแล้ว 2 คน มีลูกทั้งหมด 18 คน เคยมีฮาเร็มที่มีสาวๆ จำนวนมากถึง 40 คน และชื่นชอบในการเอ็นเตอร์เทนสาวๆ บนเรือยอชต์ที่มีชื่อว่า “Tits” (นม) และมีเรือช่วยชีวิตอีก 2 ลำที่มีชื่อว่า “Nipple1” (หัวนม1) และ “Nipple2” (หัวนม2)
วารสารวานิตี้แฟร์เคยรายงานว่า ก่อนที่ทรัพย์สินของเจ้าชายเจฟรีจะถูกอายัดในปี 2000 เจ้าชายเป็นคนที่ใช้เงินมากที่สุดในโลก โดยมีรายงานว่าเจ้าชายเคยใช้เงินมากถึงเดือนละ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,600 ล้านบาท
รายงานระบุว่า เจ้าชายเคยซื้อเพชรเม็ดยักษ์ให้สาวๆ หลายคน สะสมรถหรูมากถึง 2,300 คัน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์รารี, โรลส์-รอยซ์ และเบนต์ลีย์ นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เครื่องบิน 8 ลำ ในจำนวนนั้นรวมถึง โบอิ้ง 747 ที่ใช้เป็นเครื่องบินส่วนตัว และมีภาพวาดของ เรอนัวส์, มาเน่ และเดการ์ต ด้วย
เจ้าชายเจฟรีเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 500 แห่ง รวมไปถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว ไม่ว่าจะเป็นรร.เบลแอร์ ในนิวยอร์ก, พลาซ่าแอทธินี ในปารีส และยังเคยซื้อเพลย์บอยคลับ ในกรุงลอนดอนด้วยเงิน 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าราคาตลาดถึง 4 เท่า
เว็บไซต์ศิลปะวัฒนธรรม เคยรายงานไว้ด้วยว่า จิลเลียน ลอเรน (Jillian Lauren) เป็นหญิงอเมริกันที่อ้างว่าตนเคยมีประสบการณ์ใช้ชีวิตในฮาเร็มของเจ้าชายเจฟรี เธอเล่าผ่านหนังสือของเธอว่า การมีเพศสัมพันธ์ของเธอกับพระองค์เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีอารมณ์ร่วม และยังไม่มีการสวมเครื่องป้องกัน แต่เธอถือได้ว่าเป็นคนโปรดขององค์ชาย ซึ่งพระองค์ได้แสดงความชื่นชมในตัวเธออย่างสูงสุดด้วยการส่งต่อเธอให้กับองค์สุลต่าน
อลิสัน แลงดอน (Alison Langdon) จากรายการ 60 Minutes ของออสเตรเลีย ซึ่งเคยสัมภาษณ์ลอเรนกล่าวว่า “เธอ (ลอเรน) เข้าไปอยู่ในฮาเร็มตอนอายุ 18 ปี ซึ่งในนั้นมีสาวๆ อีกกว่า 30-40 คน บางคนมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น”
เมื่อถึงปี 1998 ช่วงเวลาอันชื่นมื่นของเจ้าชายเจฟรีเริ่มหมดลง ประเทศที่เคยใช้จ่ายคล่องตัวเริ่มได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ เจ้าชายเจฟรีถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์มูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์ระหว่างที่พระองค์ดูแลสำนักงานการลงทุนแห่งบรูไน ทำให้พระองค์ถูกสั่งปลดจากทุกตำแหน่ง และถูกสั่งอายัดทรัพย์ ก่อนสุลต่านโบลเกียห์จะสั่งฟ้องเจ้าชายเจฟรีในปี 2000 ซึ่งเบื้องต้นข้อพิพาทดังกล่าวจบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าชายเจฟรียินยอมมอบทรัพย์สินทั้งหมดที่ครอบครองอยู่ในทั่วทุกมุมโลกกลับคืนแก่บรูไน ไม่นานจากนั้นพระองค์จึงได้เดินทางออกนอกประเทศ
แม้จะได้ข้อตกลงยอมความแล้ว แต่การต่อสู้ทางกฎหมายของสองพี่น้องยังคงดำเนินต่อไปนานนับสิบปีเมื่อองค์สุลต่านกล่าวหาว่าเจ้าชายเจฟรียังซุกซ่อนเงินไว้ในบัญชีลับ และยังมิได้โอนทรัพย์สินที่ครอบครองอยู่ให้ตามสัญญาระงับข้อพิพาท จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2009 เจ้าชายเจฟรีจึงมีโอกาสได้เดินทางกลับบรูไนอีกครั้ง หลังสุลต่านพึงพอใจกับการปฏิบัติตามสัญญาของเจ้าชายแล้ว
