‘มะกัน-ผู้ดี’ ขู่คว่ำบาตรบริษัท-คนใกล้ชิดปูติน หากรัสเซียบุกยูเครน
สหรัฐอเมริกาและอังกฤษออกมาระบุว่าเตรียมพร้อมที่จะคว่ำบาตรกลุ่มผู้ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ด้วยการอายัดทรัพย์และห้ามการเดินทาง หากรัสเซียบุกเข้าไปในดินแดนของยูเครน
อังกฤษได้ร้องขอให้ปูตินถอยหลังออกมาจากปากเหว พร้อมกับเตือนว่าการรุกรานใดๆ จะนำไปสู่การคว่ำบาตรต่อบริษัทและบุคคลที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีปูติน
ด้าน เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า จะมีการดำเนินการกับบุคคลใดๆ ที่ถูกระบุว่ามีความใกล้ชิดหรือเป็นวงในของปูติน หรือมีบทบาทกับการตัดสินใจใดๆ ของรัฐบาลรัสเซีย หรือมีส่วนร่วมต่อพฤติกรรมอันทำให้เกิดความไม่มั่นคงของรัสเซีย
ขณะที่ ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า กำลังเตรียมที่จะออกกฎหมายที่จะให้อำนาจใหม่แก่รัฐบาลในการที่จะพุ่งเป้าไปยังการดำเนินการกับบริษัทที่มีส่วนเชื่อมโยงกับทางการรัสเซียด้วย
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า คำเตือนของอังกฤษเป็นเรื่องน่ารำคาญอย่างยิ่ง และทำให้อังกฤษดึงดูดนักลงทุนน้อยลง ทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อบริษัทของอังกฤษเอง การโจมตีใดๆ ต่อธุรกิจของรัสเซียจะต้องเจอกับมาตรการตอบโต้กลับ และหากจำเป็นต้องทำ มาตรการเหล่านั้นจะยึดเอาผลประโยชน์ของรัสเซียเป็นตัวตั้ง
การประกาศจุดยืนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่าผู้แทนสหรัฐและรัสเซียปะทะกันในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) หลังจากที่สหรัฐได้ร้องขอให้มีการหารือต่อกรณีที่รัสเซียได้ส่งกำลังทหารเข้าไปในพื้นที่ใกล้กับดินแดนยูเครน ซึ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันในที่ประชุม
เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรรัสเซียประจำยูเอ็นระบุว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะพิสูจน์ได้ว่ารัสเซียวางแผนที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหาร และรัสเซียไม่เคยยืนยันข้ออ้างของชาติตะวันตกที่ว่ารัสเซียได้ส่งกำลังทหารถึง 100,000 นาย เข้าไปใกล้กับประเทศเพื่อนบ้าน คำกล่าวเกี่ยวกับสงครามและการเคลื่อนกำลังทหารรัสเซียของสหรัฐเป็นความพยายามที่จะยั่วยุ
นางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรสหรัฐประจำยูเอ็น กล่าวโต้ว่า การยั่วยุมาจากฝั่งรัสเซีย ไม่ใช่จากสหรัฐหรือชาติสมาชิกอื่นๆ ของคณะมนตรี
ขณะที่จีนได้ร้องขอให้ทุกฝ่ายอย่าทำให้สถานการณ์แย่ลงยิ่งขึ้น พร้อมระบุว่าจีนไม่เห็นว่าการที่กองทหารรัสเซียอยู่ใกล้กับชายแดนจะถือเป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด
