เทสลา เรียกคืนรถ 54,000 คัน เลิกใช้ฟีเจอร์ rolling stop ชี้เสี่ยงอุบัติเหตุ

เทสลา เรียกคืนรถ 54,000 คัน เลิกใช้ฟีเจอร์ rolling stop ชี้เสี่ยงอุบัติเหตุ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเรียกคืนรถยนต์เทสลาในสหรัฐอเมริกาจำนวนมากถึง 54,000 คัน เพื่อนำมายุติการใช้งานฟีเจอร์ “rolling stop” ส่วนหนึ่งของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ทำให้รถสามารถเคลื่อนที่ผ่านป้าย “หยุด” โดยที่รถไม่ต้องหยุดนิ่ง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

เทสลาติดตั้งระบบ “rolling stop” ในซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นเบต้า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 จะทำให้รถสามารถเคลื่อนผ่านป้ายหยุดเมื่อรถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 9 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหากไม่มียานพาหนะ จักรยาน หรือ คนเดินถนนอยู่ในทาง

อย่างไรก็ตามล่าสุดหลังจากเทสลา ประชุมกับสำนักงานความปลอดภัยจราจรบนทางหลวงแห่งชาติ (เอ็นเอชทีเอสเอ) มาแล้ว 2 ครั้ง เทสลา ได้ตัดสินใจเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมาเพื่อยุติการใช้งานโปรแกรมดังกล่าว และแจ้งต่อหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับการเรียกรถคืนเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา แม้จะยังไม่เคยมีอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับระบบดังกล่าวก็ตาม

ขณะที่เอ็นเอชทีเอสเอ เปิดเผยผ่านจดหมายเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมาระบุว่า ระบบ “rolling stop” อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดรถชนได้

ADVERTISMENT

ทั้งนี้เทสลา จะเรียกคืนรถยนต์ “โมเดล 3” ที่ผลิตระหว่างปี 2017-2022, “โมเดล เอส” ที่ผลิตระหว่างปี 2016-2022 และ “โมเดล เอ็กซ์” และ “โมเดล วาย” ที่ผลิตระหว่างปี 2020-2022 โดยเทสลา จะทำการอัพเดทซอฟท์แวร์แบบไร้สายโดยไม่มีค่าใช้จ่ายกับเจ้าของรถ

การเรียกรถคืนล่าสุดมีขึ้นหลังจากเทสลา เรียกรถยนต์จำนวน 7,600 คันคืนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อนเพื่อแก้ “ปัญหาถุงลมนิรภัย” และเคยเรียกรถคืนจำนวนถึง 5 แสนคันในเดือนธันวาคมเพื่อแก้ปัญหา “ช่องเก็บสัมภาระ” มาแล้ว นอกจากนี้ยังเคยตัดสินใจยกเลิกฟีเจอร์ที่ “อนุญาตให้ผู้ขับเล่นวิดีโอเกม” ขณะขับขี่มาแล้วก่อนหน้านี้หลังจากถูกสอบสวนโดยเอ็นเอชทีเอสเอ ด้วยเช่นกัน

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image