หุ้นเมต้าร่วงฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่นร่วงตาม
หลังจากราคาหุ้นของเมต้า บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กร่วงลงครั้งประวัติการณ์ เนื่องจากผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดหมาย บวกกับการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อการปรับเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐพากันร่วงลงตามไปด้วย เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในสหรัฐ
เนื่องจากมูลค่าหุ้นของเมต้าสูงมาก ราคาหุ้นที่ตกลงถึง 26.4% ทำให้มูลค่าของตลาดหายไปกว่า 230,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทสหรัฐในหนึ่งวัน และทำให้ตลาดหลักทรัพย์เกิดการแกว่งตัวในวงกว้างครั้งใหญ่ตามมา
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 2.4% ซึ่งถือเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบเกือบปี ขณะที่ดัชนีแนสแด็คซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 3.7% ซึ่งถือเป็นการลดลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ซึ่งไม่รวมเมต้าอยู่ด้วยลดลง 1.5%
ผลประกอบการที่ไม่เป็นไปตามคาดหมายของเมต้ายังส่งผลกระทบต่อหุ้นของบริษัทโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามมาทันที โดยหุ้นของทวิตเตอร์ลดลง 5.6% ขณะที่หุ้นของสแนปบริษัทแม่ของสแนปแชทลดลง 23.6% และหุ้นของพินเทอเรสต์ลดลง 10.3%
อย่างไรก็ดี ในการซื้อขายหลังปิดตลาด หุ้นของสแนปปรับเพิ่มขึ้น 54% ขณะที่หุ้นของพินเทอเรสต์ก็ดีดตัวเพิ่มขึ้น 28% หลังรายงานผลประกอบการของทั้ง 2 บริษัทดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ เช่นเดียวกับหุ้นแอมะซอนที่ปรับเพิ่มขึ้น 18% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ จากผลประกอบการที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 แม้จะมียังคงมีปัญหาเกี่ยวกับซัพพลายเชนก็ตาม
