‘แจ๊ก หม่า’สนทนา สอนชั้นเชิง-นักธุรกิจรุ่นใหม่

หมายเหตุ – เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม กระทรวงการต่างประเทศจัดกิจกรรมบรรยายพิเศษสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในหัวข้อ “ผู้ประกอบการและโลกาภิวัตน์อย่างครอบคลุม” (Entrepreneurship and Inclusive Globalization) ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ผู้บรรยายคือนายแจ๊ก หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัทอาลีบาบา โดยมีนายชุตินทร คงศักดิ์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นผู้ร่วมสนทนา

เดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง

รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับเชิญ ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่ผมเดินทางออกจากประเทศจีน และเดินทางมาประเทศไทยมากกว่า 10 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ที่เดินทางมามีความรู้สึกประทับใจในความตั้งใจของรัฐบาลที่จะช่วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ช่วยคนอายุน้อย ผมได้หารือกับนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีในเรื่องของเอสเอ็มอี และคนหนุ่มสาว ทั้งความรู้ทางเทคโนโลยี ความเท่าเทียมกัน และเรื่องระบบการเงินที่ครอบคลุม จะสามารถช่วยคนอายุน้อยได้จำนวนมาก นับว่าเกินความคาดหมายของผม ในตอนแรกคิดว่าเดินทางมาที่นี่พูดคุยกับผู้นำทางในธุรกิจ 30-40 ราย แบบผิวเผิน จากนั้นก็เดินทางกลับ แต่กลับได้รู้สึกถึงความปรารถนาและตั้งใจจริงของคนจำนวนมาก รู้สึกดีใจกับการเดินทางมาครั้งนี้

ช่วยให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการและคนอายุน้อยจำนวนมากที่มีนายแจ๊ก หม่า เป็นแรงบันดาลใจ

ไม่คิดว่าจะมีคนรู้จักผมมากขนาดนี้ คำแนะนำแรกคืออย่าเชื่อหนังสือ ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำธุรกิจมากกว่า 50 เล่ม พบว่าข้อมูลส่วนใหญ่ที่เขียนไว้ไม่ถูกต้อง ผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งขณะที่อยู่บนเครื่องบินเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนรุ่นใหม่ที่ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก ผมคิดว่าผู้ชายคนนี้เจ๋งมากๆ แต่เมื่อพลิกมาอีกหน้าหนึ่ง ผมกลับพบว่าเรื่องที่เขาเล่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับผม

Advertisement

จริงๆ แล้วผมเป็นคนธรรมดามากๆ สอบตกมาหลายครั้ง ผมทดลองสมัครเข้าทำงานมาแล้วมากกว่า 30 แห่ง ไม่มีที่ไหนรับผมเลย ผมเคยชินกับการถูกผู้คนปฏิเสธและเคยชินกับความล้มเหลว คนจำนวนมากอาจจะบอกว่าแจ๊ก คุณประสบความสำเร็จมากทั้งอาลีบาบา แอนด์ไฟแนนเชียล อาลีคล็อคคอมพิวติ้ง แต่ยังมีเรื่องที่คนไม่เห็นและไม่ได้อ่าน สำหรับ 5 บริษัทที่ประสบความสำเร็จของเรา เราทำสิ่งที่ผิดพลาดมากกว่า 5,000 ครั้ง เราเคยสร้างความผิดพลาดโง่ๆ จำนวนมาก บริษัทของเราเริ่มต้นจากการมี 18 คน ที่อพาร์ตเมนต์ของผม จนมาถึงจุดนี้ที่มีพนักงานมากกว่า 43,000 คน

คำแนะนำของผมข้อแรกคือ ใช้สมองของคุณคิดให้รอบคอบ เมื่อคนพูดว่าใช่ คุณใช้เวลาสักนิดคิดว่าเหตุใดเขาถึงบอกว่าใช่ มีความเป็นไปได้ที่จะไม่ใช่หรือไม่ เมื่อทุกคนบอกว่าไม่ชอบสิ่งไหน ใช้เวลาคิดสักเล็กน้อยว่า บางทีอาจจะมีสิ่งที่ดีอยู่ในนั้นก็ได้ ดังนั้น ขอให้คุณใช้ความคิดของคุณเองอยู่ตลอดเวลา อย่าทำตามความคิดเห็นทั่วๆ ไป

ข้อ 2 คือ ให้เป็นคนมองโลกในแง่บวกเข้าไว้ มีโอกาสอยู่เสมอ เมื่อตอนที่ผมยังอายุน้อย ผมไม่ชอบบิล เกตส์ (ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์) เพราะผมคิดว่า บิล เกตส์ เอาตำแหน่งงานไปหมดเลย โอกาสที่ดีๆ ล้วนเป็นของไมโครซอฟท์ ไอบีเอ็ม ซิสโก้ แต่ผมคิดว่าบางทีบิล เกตส์, แจ๊ก หม่า, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และ สตีฟ จ็อบส์ สิ่งที่คุณจะเรียนรู้ได้จากคนเหล่านี้คือวิสัยทัศน์ ค่อยๆ เริ่มต้นจากเล็กๆ เมื่อคุณยังเล็ก คุณต้องคิดให้ใหญ่ เมื่อคุณใหญ่ คุณต้องใส่ใจกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ คุณต้องพร้อมเรียนรู้ความเจ็บปวดเพื่อโอกาสยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า

Advertisement

คำแนะนำต่อมาคือ ผู้ร่วมงานที่ดี ไม่มีสิ่งใดที่สามารถได้มาด้วยตัวของคุณเอง คุณต้องหาคู่ค้าทางธุรกิจที่ดี และคู่ค้าที่ดีต้องใช้เวลาในการสร้างความเชื่อใจ สิ่งสุดท้ายคือ อย่ายอมแพ้ ผมล้มเหลวมาเป็นหมื่นครั้ง แต่ผมไม่เคยยอมแพ้ อีก 3 วันคุณอาจจะประสบความสำเร็จก็ได้ แต่สิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้นถ้าคุณยอมแพ้ไปก่อน ในโลกนี้สิ่งที่ทำง่ายที่สุดคือการยอมแพ้ แต่เป็นเรื่องยากในการที่จะกลับมา ถ้าคุณตัดสินใจที่จะเป็นผู้ประกอบการแล้ว แปลว่าคุณรักการทำสิ่งนี้ ให้คุณจำความรู้สึกรักในวันแรกไว้ ความรักในวันแรกเป็นความสวยงาม แม้ว่าจะมีปัญหามาก แต่ให้มองในแง่บวกเข้าไว้ หาคู่ค้าที่ดีและอย่ายอมแพ้ และผมได้พูดกับตัวเองรวมถึงเพื่อนๆ ของผมตลอด 17 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ในวันนี้เป็นเรื่องยากและพรุ่งนี้จะยากมากยิ่งกว่านี้ วันมะรืนจะสวยงามที่สุด แต่คนส่วนใหญ่จะตายในวันพรุ่งนี้เช้า ถ้าคุณอยากเห็นแสงอาทิตย์ในวันมะรืนนี้ ทำงานให้หนัก อย่ายอมแพ้ และหาคู่ค้าที่ดี

ปัญหาของธุรกิจขนาดเล็กในไทยส่วนใหญ่คือเงินทุนสนับสนุน การโน้มน้าวให้ผู้สนับสนุนเชื่อในแนวคิดและให้เงินทุน

เงินทุนเป็นปัญหาของทุกบริษัทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ บริษัทใหญ่ก็ต้องการเงินทุนมาก ดังนั้นเงินทุนเป็นปัญหามาโดยตลอด เมื่อคุณต้องการกู้เงิน ธนาคารจะไม่ให้กู้ เมื่อคุณขอเงินทุนแต่คุณไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดามาก เมื่อคุณขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครช่วยคุณ ถ้ามีคนช่วยคุณนั่นเป็นเรื่องไม่ปกติธรรมดานี่จึงเป็นเรื่องที่ผมต้องการทำ ผมจำได้เมื่อครั้งที่เริ่มต้นทำธุรกิจ พ่อแม่ผมไม่ชอบมัน อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยถามว่าทำไมคุณถึงคิดทำในเรื่องที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ แม้แต่ภรรยาของผมก็กังขาในเรื่องนี้ แม้แต่เพื่อนของผม 24 คน ที่ผมชวนมาคุยเรื่องนี้ที่บ้าน หารือถึงเรื่องที่ผมต้องการทำในอนาคต แต่หลังจากที่ผมคุยกับพวกเขา 2 ชั่วโมง มีเพื่อน 23 คน บอกว่าลืมมันไปซะเถอะ มีคนเดียวที่บอกว่า หากคุณอยากทำจริงๆ ก็ลองทำดูซัก 2 ปี หลังจากนั้นค่อยกลับมาเรียน แต่ผมก็ตัดสินใจทำ หลายอย่างที่คุณทำคนอื่นอาจจะไม่ชอบ แต่คุณต้องเชื่อในสิ่งนั้น แต่หากคุณทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ชอบหรือไม่เข้าใจ แน่นอนว่าคุณก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนมากนัก แต่ผมก่อตั้งอาลีบาบาโดยมีผู้ก่อตั้ง 18 คน ด้วยเงินทุน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ นั่นเป็นเมื่อปี 2542 ผมบอกว่า ทุกคนวางเงินเก็บของคุณไว้บนโต๊ะ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ยืมเงินจากพ่อแม่ เนื่องจากผมไม่ต้องการให้มีแรงกดดันจากพ่อแม่ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ยืมเงินจากเพื่อนเพราะเราเป็นคนรุ่นใหม่ เราควรรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองทำ เราไปธนาคาร ไม่มีใครให้เงินเรา ผมไปหาบริษัทร่วมทุน (เวนเจอร์แคปปิตอล) 25-26 แห่งในสหรัฐ ไม่มีใครสนใจในแนวคิดของอาลีบาบา พวกเขาบอกว่า อีคอมเมิร์ซเหรอ ลืมมันไปเถอะ อินเตอร์เน็ตหรือ จีนไม่มีอินเตอร์เน็ตและไม่ประสบความสำเร็จด้านอีคอมเมิร์ซหรอก แล้วเราทำอย่างไร ใช้เงินอย่างรอบคอบที่สุด โน้มน้าวผู้คนให้เชื่อใจคุณและรับผิดชอบในความเชื่อใจนั้น นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องการจะบอก เป็นเรื่องยากที่จะเริ่มต้นแล้วหาเงินทุนได้เลย แม้แต่จากพ่อแม่ เพื่อน หรือเงินของตัวเอง ดังนั้นแล้วรัฐบาลควรช่วยเหลือในเรื่องนี้ เพราะทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่าบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กทุกแห่งจะหาเงินทุนได้ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ และนี่เป็นปัญหาที่รัฐบาล และธนาคารควรจะต้องทำให้มีระบบการให้ทุนสนับสนุนที่ครอบคลุม ให้แน่ใจว่าผู้ที่ต้องการได้รับเงินทุนจะหาได้ ตอนนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของผมมาจากญี่ปุ่น บริษัทของผมไม่สามารถหาทุนจากจีนได้ ผมต้องการจะบอกว่าถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการและจะเริ่มต้นธุรกิจ การหาเงินทุนเป็นเรื่องใหญ่เสมอ คุณต้องคิดให้ออกว่า ถ้าไม่มีเงินจะทำอย่างไร ผมได้ยินผู้คนพูดเสมอว่า ถ้ามีเงินจะทำอะไร ผมไม่ชอบคนอายุน้อยประเภทนั้น ผมชอบผู้ประกอบการที่บอกว่าผมไม่มีเงินแต่ยังทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ ถ้าคุณมีความตั้งใจแบบนี้ มีจินตนาการ นั่นคือความเป็นผู้ประกอบการที่แท้จริง และคุณจะหาผู้สนับสนุนได้

สถานศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยควรให้การศึกษากับคนรุ่นใหม่ในเรื่องอะไรบ้าง

สิ่งที่มหาวิทยาลัยควรจะสอนคนรุ่นใหม่คือ สอนวิธีการใช้โซเชียลมีเดีย เสิร์ชเอ็นจิ้น วิธีการใช้ข้อมูล การใช้เทคโนโลยี ทำให้คนรุ่นใหม่รู้เท่าทันอนาคต นั่นเป็นสิ่งที่ควรทำ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังควรคิดถึงหลักสูตรหรือวิชาที่จะทำให้คนเหล่านี้มีจินตนาการ มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นและไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ แต่ควรจะต้องเน้นศิลปะ กีฬา ดนตรี เป็นเรื่องสำคัญมากในอนาคตสำหรับมนุษย์ เนื่องจากในอนาคตมนุษย์อาจต้องแข่งขันกับหุ่นยนต์ และคุณจะพ่ายแพ้ตลอดหากแข่งขันเรื่องความรู้ แต่หากแข่งขันกับหุ่นยนต์ด้วยวัฒนธรรม เราจะชนะ

มนุษย์มีความตั้งใจ ความพยายามที่หุ่นยนต์สู้ไม่ได้ หุ่นยนต์รู้เพียงว่าจะทำงานให้สำเร็จอย่างไร แต่ไม่มีสิ่งเหล่านี้ ผมคิดว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป เราควรเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา วิธีการศึกษา สร้างให้เด็กของเราเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องจักรบรรจุความรู้ นี่เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังจากมหาวิทยาลัยต่างๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image