แนสแดก-เอสแอนด์พี 500 ร่วง หลังนักลงทุนยังกังวลวิกฤตยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีหุ้นแนสแดก และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ของสหรัฐ ยังปรับตัวลดลง ในการซื้อขายเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา โดยบรรดานักลงทุนยังคงเป็นกังวลกับสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครน ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ยังเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนได้ให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าอีกด้วย
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงบ่าย เนื่องจากนักลงทุนพิจารณาพัฒนาการด้านภูมิรัฐศาสตร์ล่าสุด ก่อนที่จะปรับตัวลดลง หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า การเจรจากับยูเครนมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
นายแมตต์ มาลีย์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทมิลเลอร์ ทาบัค กล่าวว่า “หลังจากที่เราเห็นการปรับตัวขึ้นสูงในช่วงกลางสัปดาห์ แสดงให้เห็นว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่มากเกินไป”
โดยขณะที่ดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.94 จุด หรือ 0.03% มาอยู่ที่ 33,185.01 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลงไป 17.82 จุด หรือ 0.42% มาอยู่ที่ 4,241.7 จุด และดัชนีแนสแดก ร่วงลง 156.31 จุด หรือ 1.19% ลงมาปิดที่ 12,973.66 จุด
ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างแอปเปิล และเทสลา ร่วงลง 1.3% และ 4.8% ตามลำดับ รุนแรงสุดในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ส่วนหุ้นเมต้า ร่วงลง 2.7% ขณะที่รัสเซียจะดำเนินคดีทางอาญาต่อบริษัทเมต้า บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก หลังจากเปลี่ยนกฎการพูดแสดงความเกลียดชังเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกร้องให้สังหารผู้รุกรานชาวรัสเซียในบริบทของการทำสงครามกับยูเครนได้
