ไร้วี่แววผู้รอดชีวิต ‘ไชน่า อีสเทอร์น’ สั่งระงับใช้โบอิ้ง 737-800 ทุกลำ

ไร้วี่แววผู้รอดชีวิต ‘ไชน่า อีสเทอร์น’ สั่งระงับใช้โบอิ้ง 737-800 ทุกลำ

หลังอุบัติเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินไชน่า อีสเทอร์น เที่ยวบินที่เอ็มยู5735 ประสบอุบัติเหตุตกที่เมืองอู๋โจว ในมณฑลกว่างซี ระหว่างเดินทางออกจากคุนหมิงไปยังกวางโจว พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ 132 คน ล่าสุด มีข่าวจากทีมกู้ภัยว่าไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทางการจีนได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายฉุกเฉินมากกว่า 600 นาย เข้าไปยังพื้นที่ซึ่งเป็นจุดที่เครื่องบินตกและเกิดไฟลุกไหม้ขนาดใหญ่ โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าไปถึงจุดเกิดเหตุเป็นชุดแรกและพยายามที่จะดับไฟที่เกิดขึ้นบนภูเขาหลังจากเครื่องบินตก

ขณะที่มีการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายโดยชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งนำมาโพสต์ในโซเชียลมีเดียของจีน และนำไปเผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของจีน แสดงให้เห็นถึงไฟและควันที่พวยพุ่งขึ้นจากจุดเกิดเหตุ รวมถึงเศษซากของเครื่องบินที่ตกอยู่บนพื้นดิน

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุทางเครื่องบินครั้งใหญ่ในรอบ 12 ปีของจีน

Advertisement

สายการบินไชน่า อีสเทอร์น ได้เปิดสายด่วนสำหรับให้ประชาชนสอบถามข้อมูลของผู้โดยสารเครื่องบินลำดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสียชีวิตของผู้โดยสารและลูกเรือ

สายการบินไชน่า อีสเทอร์น ยังมีคำสั่งห้ามทำการบินเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ที่อยู่ในฝูงบินของบริษัททั้งหมด ซึ่งมีอยู่ราว 100 ลำ ขณะที่ในประเทศจีนทั้งหมดคาดว่าเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ใช้งานอยู่เกือบ 1,200 ลำ ซึ่งหากมีการสั่งระงับการใช้งานทั้งหมดก็น่าจะส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมการบินในประเทศของจีนอย่างกว้างขวาง

สำนักงานการบินพลเรือนของจีนระบุว่า ได้ส่งทีมสอบสวนเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ขณะที่บริษัทโบอิ้งออกแถลงการณ์รับทราบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบินดังกล่าว โดยระบุว่ากำลังรวบรวมข้อมูลที่มีอยู่ พร้อมทั้งยืนยันว่าผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของบริษัทพร้อมจะให้การช่วยเหลือการสอบสวนที่นำโดยสำนักงานการบินพลเรือนของจีนต่อไป

Advertisement

จากข้อมูลการติดตามการเดินทางของเที่ยวบินพบว่าเครื่องบินลำดังกล่าวประสบอุบัติเหตุขณะบินอยู่บนท้องฟ้าห่างจากเป้าหมายเพียง 1 ชั่วโมงก่อนที่จะตกลงสู่พื้นดิน และแม้สภาพอากาศจะมีเมฆมากแต่ทัศนวิสัยในการมองเห็นยังคงอยู่ในระดับดี

ทั้งนี้ มีวิดีโอที่ถูกระบุว่าเป็นเที่ยวบินเอ็มยู5735 ที่ดิ่งลงมาจากท้องฟ้าในแนวตั้งถูกนำไปเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งจากข้อมูลติดตามเที่ยวบินแสดงให้เห็นว่าเที่ยวบินทิ้งตัวลงหลายพันเมตรในเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้น

ข้อมูลจาก FlightRadar24 แสดงให้เห็นว่า เครื่องบินลำดังกล่าวอยู่ที่ระดับความสูง 29,100 ฟุต ก่อนที่ในอีก 2.15 นาทีต่อมาเครื่องบินลดลงสู่ระดับ 9,075 ฟุต และข้อมูลสุดท้ายของเที่ยวบินอยู่ที่ระดับ 3,225 ฟุต เมื่อเวลา 14.22 น.

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของจีนรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า โดยปกติแล้วเครื่องบินจะอยู่ในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในช่วงเวลาดังกล่าว จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอีกรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์จีนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เครื่องบินจะสูญเสียพลังงานขณะทำการบินในระดับความสูง ส่งผลให้นักบินสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน ซึ่งนี่ถือเป็นความล้มเหลวทางเทคนิคที่ร้ายแรงมาก และทำให้เครื่องบินต้องตกลงด้วยความเร็วสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อุบัติเหตุครั้งนี้กลายเป็นหัวข้อที่มีการพูดถึงอย่างมากบนแพลตฟอร์ม Weibo ของจีน โดยมีผู้เข้าไปดูถึง 1.34 พันล้านครั้ง และมีผู้แสดงความเห็น 690,000 ข้อความ ส่วนใหญ่เป็นการแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมถึงมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบิน

รายงานข่าวระบุว่า สายการบินไชน่า อีสเทอร์น ได้ตั้งทีมขึ้นมา 9 ทีม เพื่อดูแลเกี่ยวกับการบริหารจัดการเครื่องบิน การสอบสวนถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ การช่วยเหลือครอบครัวของผู้โดยสารรวมถึงเรื่องเร่งด่วนอื่นๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image