อนามัยโลก ชี้ปี 2564 ไร้ประเทศผ่านมาตรฐานคุณภาพอากาศ
องค์การอนามัยโลก เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มีนาคมระบุว่า จากการสำรวจใน 6,475 เมืองทั่วโลก พบว่าในปี 2564 ที่ผ่านมาไม่มีประเทศใดเลยที่ผ่านมาตรฐานคุณภาพอากาศ ขณะที่ ในบางพื้นที่ฝุ่นควันพีเอ็ม2.5 กลับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่อนคลายลง
ผลการสำรวจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากองค์การอนามัยโลกปรับมาตรฐานคุณภาพอากาศใหม่เมื่อปีก่อน โดยวางกรอบมาตรฐานคุณภาพอากาศเป็นค่าเฉลี่ยพีเอ็ม 2.5 ตลอดปีที่ ไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร โดยเป็นการปรับลดลงจากเดิมเนื่องจากพบว่าแม้ พีเอ็ม 2.5 ในอากาศจะมีความเข้มข้นน้อยแต่ก็ส่งผลกระทบกับสุขภาพได้เช่นกัน
ผลสำรวจขององค์การอนามัยโลก เก็บข้อมูลโดยไอคิวแอร์ (IQAir) บริษัทเทคโนโลยีด้านมลพิษจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พบว่ามีเพียง 3.4 เปอร์เซ็นต์จากเมืองที่ทำการสำรวจทั้งหมดที่ผ่านมาตรฐานคุณภาพอากาศขององค์การอนามัยโลก และพบด้วยว่ามีถึง 93 เมืองที่มีระดับพีเอ็ม 2.5 สูงกว่ามาตรฐานคุณภาพอากาศที่แนะนำถึง 10 เท่า
ทั้งนี้ไอคิวแอร์ ระบุว่ามีหลายประเทศที่ลดมลพิษในอากาศได้ดีเช่นจีนที่มีมลพิษในอากาศลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มีอีกหลายเมืองที่มลพิษเพิ่มขึ้นเช่น กรุงนิวเดลี ของอินเดีย เป็นเมืองหลวงที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดในโลกในปี 2564 ส่วน บังกลาเทศ ทำสถิติเป็นประเทศที่มีมลพิษทางอากาศมากที่สุดในโลก
