ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | มนต์ทิพย์ ธานะสุข |
เผยแพร่ |
คอลัมน์ไฮไลต์โลก: เปิด 4 เหตุผลรัสเซียมุ่งยึด มารีอูปอล
มารีอูปอล เมืองท่าทางตอนใต้ของยูเครน ติดกับทะเลอาซอฟ มีประชากรราว 4.5 แสนคน เป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่บอบช้ำหนักจากการถูกกองกำลังรัสเซียถล่มโจมตีด้วยอาวุธหนัก ด้วยมุ่งหมายจะเผด็จศึกยึดมารีอูปอลให้ได้ เพราะเมืองนี้มีความสำคัญยิ่งในทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย ซึ่งหากยึดได้สำเร็จ จะเป็นชัยชนะก้าวสำคัญของรัสเซีย ในทางกลับกันก็จะเป็นการเสียสูญครั้งใหญ่ของยูเครนเช่นกัน
มีการประเมินว่า มีเหตุผลหลักใหญ่ 4 ประการ ที่รัสเซียต้องการยึดมารีอูปอลให้ได้
ประการแรก แม้ทางภูมิศาสตร์ มารีอูปอล จะเป็นเมืองชายฝั่งเล็กๆ บนแผนที่ประเทศยูเครน แต่หากรัสเซียยึดเมืองนี้ได้สำเร็จ จะเท่ากับว่ารัสเซียยึดครองพื้นที่แนวชายฝั่งติดทะเลดำของยูเครนไปได้มากกว่า 80% เป็นการตัดขาดเส้นทางการค้าทางทะเลของยูเครนและเป็นการโดดเดี่ยวยูเครนจากโลกมากขึ้น
ที่สำคัญการยึดมารีอูปอลไว้ได้ จะเป็นการเปิดเส้นทางเชื่อมทางบกจากดินแดนไครเมีย ทางตอนใต้ที่เคยเป็นของยูเครนแต่รัสเซียผนวกเป็นของตนเองในปี 2014 เชื่อมกับภูมิภาคดอนบาส ที่ตั้งแคว้นโดเนตสค์และแคว้นลูฮานสค์ ทางตะวันออกของยูเครนติดกับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียประกาศรับรองเป็นรัฐเอกราชของสองแคว้นนี้ที่มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียเคลื่อนไหวอยู่ไปก่อนหน้าที่ วลาดิมีร์ ปูติน จะประกาศทำสงครามบุกยูเครนเพียงไม่กี่วัน
ประการถัดมา ดังที่เกริ่นข้างต้น มารีอูปอล เป็นเมืองท่าสำคัญทางยุทธศาสตร์ของยูเครนติดกับทะเลอาซอฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลดำ มารีอูปอล ยังเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคทะเลอาซอฟ และเป็นที่ตั้งของโรงถลุงเหล็กและเหล็กกล้าสำคัญ เป็นศูนย์กลางการส่งออกเหล็กกล้า ถ่านหิน และ ข้าวโพด ไปยังตะวันออกกลางและที่อื่นๆ การสูญเสียเมืองมารีอูปอลไป จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจของยูเครน
ประการที่ 3 ถือเป็นโอกาสของการโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย โดยใน มารีอูปอล มีกลุ่มติดอาวุธยูเครน ที่เรียกว่า “กองพลอาซอฟ” เคลื่อนไหวอยู่ โดยกลุ่มติดอาวุธนี้ประกอบขึ้นด้วยกลุ่มแนวคิดขวาจัด ที่รวมถึงนีโอ-นาซี ซึ่งรัสเซียอาจใช้การมีอยู่ของ กองพลอาซอฟ เป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อให้ชาวรัสเซียเห็นชอบกับการส่งทหารรัสเซียเข้าไปสู้รบในยูเครนเพื่อขจัดพวกนีโอ-นาซี ซึ่งเป็นที่จงเกลียดจงชังของปูติน
สุดท้าย หากรัสเซียยึดมารีอูปอลได้ ก็จะเป็นการเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับกองทัพรัสเซีย และทำให้เครมลินอวดอ้างกับชาวรัสเซียได้ว่าบรรลุเป้าหมายที่วางไว้และมีความคืบหน้าในการทำสงครามครั้งนี้
ขณะที่โดยส่วนตัวสำหรับปูตินแล้ว สงครามครั้งนี้ยังมีนัยสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่เขามองว่า แนวชายฝั่งทะเลดำ เป็นของ “โนโวรอสสิยา” หรือ รัสเซียใหม่ ซึ่งเป็นอาณาจักรของรัสเซียย้อนไปในศตวรรษที่ 18 ซึ่งปูตินต้องการฟื้นคืนกลับขึ้นมาใหม่!