อนามัยโลกฯ ชี้ ยุโรปผ่อนกฎคุมโควิดเร็วเกินทำผู้ติดเชื้อพุ่ง

อนามัยโลกฯ ชี้ ยุโรปผ่อนกฎคุมโควิดเร็วเกินทำผู้ติดเชื้อพุ่ง

องค์การอนามัยโลก ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หลายชาติในภูมิภาคยุโรป เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ลงแบบ “โหดร้าย” จนเกินไป จนส่งผลให้เวลานี้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง ผลจากเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ “บีเอ.2” ที่แพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม

นานยฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคยุโรป แถลงข่าวที่ประเทศมอลโดวา ในวันเดียวกันนี้ระบุว่า ตนมีมุมมองแง่บวกต่อพัฒนาการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยูโรป แต่ก็เป็นไปอย่างระมัดระวังเช่นกัน โดยในภูมิภาคยุโรปเวลานี้มี 18 จาก 53 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ, ไอร์แลนด์, กรีซ, ไซปรัส, ฝรั่งเศส, อิตาลี และเยอรมนี ผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์บีเอ.2 ที่แพร่ระบาดได้เร็วกว่า แต่อันตรายน้อยกว่าสายพันธุ์บีเอ.1

นายคลูจ ระบุว่า ในประเทศเหล่านี้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่าง “โหดร้าย” จากเดิมที่เข้มงวดมากๆกลายเป็นการผ่อนคลายมากจนเกินไป

อย่างไรก็ตาม คลูจ ระบุว่า ยุโรปก็เตรียมพร้อมรืบมือกับไวรัสได้ค่อนข้างดีในเวลานี้เนื่องจากการสร้างภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน รวมถึงจากการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มประชากรส่วนใหญ่

Advertisement

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในยุโรปซึ่งลดลงจากจุดสูงสุดเมื่อเดือนมกราคมแล้ว กลับมีจำนวนพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกครั้ง โดยในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 5.1 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตอีก 12,496 ราย ส่งผลให้ยอดติดเชื้อรวมนับตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดพุ่งสูงขึ้นเป็น 194.4 ล้านราย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 1.92 ล้านคนแล้ว

ทั้งนี้ในวันเดียวกันการแพร่ระบาดที่เริ่มเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ของโลกส่งผลให้มีรายงานข่าวคนดังติดเชื้อโควิด-19 หลายคนด้วยกันไม่ว่าจะเป็นนางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐ รวมถึงสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ ก็มีรายงานติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image