สื่อเปียงยางเปิดภาพ คิม จอง อึน นั่งคุมเอง ทดสอบยิงไอซีบีเอ็มเย้ยโลก มะกันคว่ำบาตรโต้ทันควัน
สำนักข่าวกลางแห่งเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) สื่อทางการเปียงยาง รายงานเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ว่าคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เป็นผู้สั่งการควบคุมการทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ครั้งใหญ่ที่สุดด้วยตนเอง ซึ่งแสดงถึงความพร้อมของเกาหลีเหนือในการเผชิญหน้าอันยาวนานกับสหรัฐอเมริกา
โดยเคซีเอ็นเอยังเผยภาพถ่ายของผู้นำคิมใส่แจ๊กเก็ตหนังสีดำและสวมแว่นตาดำเดินมา โดยมีผู้ติดตามขนาบข้าง ที่เบื้องหลังเผยให้เห็นรถบรรทุกขีปนาวุธขนาดใหญ่จอดอยู่ และภาพขณะที่คิม จอง อึน ขณะชมการทดสอบ
“ไอซีบีเอ็มชนิดใหม่จะทำให้ทั้งโลกรับรู้อย่างชัดเจนถึงอานุภาพของกองกำลังทางยุทธศาสตร์ของเราอีกครั้ง” เคซีเอ็นเอระบุ และว่า ขณะนี้เกาหลีเหนือ “พร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเผชิญหน้าที่ยาวนานกับจักรวรรดินิยมสหรัฐ”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธที่ทรงอานุภาพที่สุดอย่างเต็มรูปแบบนับตั้งแต่ปี 2017 ที่ดูเหมือนว่าจะพุ่งทะยานได้สูงกว่าและไกลกว่าไอซีบีเอ็มที่เกาหลีเหนือเคยทำการทดสอบมาก่อน ซึ่งรวมถึงที่ถูกออกแบบมาให้ยิงโจมตีได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐด้วย
อย่างไรก็ดี เคซีเอ็นเออ้างว่า ในการทดสอบไอซีบีเอ็มชนิดใหม่นี้ ที่รู้จักกันในชื่อ ขีปนาวุธ “ฮวาซอง-17” ซึ่งเปียงยางเปิดตัวครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 2020 และบรรดานักวิเคราะห์ให้ฉายาว่า “ขีปนาวุธปีศาจ” ที่เกาหลีเหนือยังไม่เคยประสบความสำเร็จในการทดสอบที่ผ่านมาเลยนั้น เป็นการทดสอบยิงจากสนามบินนานาชาติเปียงยาง ซึ่งขีปนาวุธพุ่งทะยานขึ้นสู่อากาศที่ระดับความสูงสุด 6,248 กม. และเคลื่อนตัวไปเป็นระยะทาง 1,090 กม. เป็นเวลา 4,052 วินาที ก่อนโจมตีเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างแม่นยำในน่านน้ำเปิดในทะเลญี่ปุ่น
ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ประเมินพิสัยการยิงขีปนาวุธดังกล่าวของเกาหลีเหนือว่าอยู่ที่ 6,200 กม. ซึ่งไกลกว่าไอซีบีเอ็ม ฮวาซอง-15 ที่เกาหลีเหนือทดสอบเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017
นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันรายหนึ่ง กล่าวว่า การทดสอบอาวุธครั้งนี้ของเกาหลีเหนือเป็นสัญญาณชัดเจนถึงความก้าวหน้าเชิงคุณภาพที่สำคัญของโครงการอาวุธต้องห้ามของเกาหลีเหนือ “สิ่งสำคัญเกี่ยวกับไอซีบีเอ็มนี้ไม่ใช่อยู่ที่ว่ามันไปได้ไกลแค่ไหน แต่อยู่ที่มันสามารถบรรทุกได้หลายหัวรบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการมานาน”
การทดสอบไอซีบีเอ็มล่าสุดของเปียงยาง ที่เป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้สร้างความไม่พอใจและความวิตกกังวลให้กับสหรัฐและชาติเพื่อนบ้านอย่างยิ่ง ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อบุคคลและองค์กรของเกาหลีเหนือเป็นการตอบโต้
โดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า บุคคลและองค์กรที่เป็นเป้าหมายถูกกล่าวหาว่าถ่ายโอนสิ่งที่มีความละเอียดอ่อนไปยังโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และว่า มาตรการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการขัดขวางความสามารถของเกาหลีเหนือในการพัฒนาโครงการขีปนาวุธ
โดยชาวเกาหลีเหนือที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรใหม่รอบนี้คือ นายรี ซอง ชอล และสถาบันวิชาการที่ 2 แห่งสำนักงานกิจการต่างประเทศวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นองค์กรในเกาหลีเหนือ แต่ทางการสหรัฐไม่ได้ให้รายละเอียดถึงข้อกล่าวหาที่ทำให้ต้องคว่ำบาตร