‘มาเลย์’ปลุก’อาเซียน’รับมือ’ไอเอส’หนีศึก หลังอิรักปฏิบัติการบุกยึดคืนโมซุล

AFP

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายฮีชัมมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย เรียกร้องให้ชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการปกป้องภูมิภาคนี้ เนื่องจากหวั่นเกรงว่ากลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) จะหนีเข้ามาหลบภัย หลังจากอิรักและกองกำลังชาติพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐอเมริกาได้เริ่มปฏิบัติการยึดคืนเมืองโมซุล อันเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสในประเทศอิรักแล้วในวันเดียวกันนี้

AFP
AFP

รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่อาคารรัฐสภาในกรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า คาดว่าสาวกไอเอสจะหนีมาจากซีเรียและประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากปฏิบัติการยึดคืนเมืองโมซุลในอิรักได้เริ่มต้นขึ้น โดยตนได้รับแจ้งด้านการข่าวและข่าวกรองระหว่างประเทศว่าสาวกไอเอสที่จะหลบหนีมาจะมีจำนวนไม่น้อย ส่วนหนึ่งอาจจะเดินทางกลับไปประเทศที่มา ซึ่งอาจเป็นฝรั่งเศสหรือประเทศอื่น หรืออาจจะหนีมากบดานในภูมิภาคต่างๆ ฉะนั้น เราจึงต้องดำเนินการเชิงรุก

นายฮีชัมมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย
นายฮีชัมมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย

“เรายังไม่แน่ใจถึงจำนวนที่จะหลบหนีมา เพราะปฏิบัติการโจมตียังไม่ได้เริ่มอย่างเต็มสูบ แต่เราจะต้องดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อให้เกิดความมั่นใจในกรณีที่มีหลบหนีมาในภูมิภาคเราจำนวนมาก” นายฮีชัมมุดดินกล่าว

ด้านกองกำลังรัฐบาลอิรักได้เริ่มลงมือโจมตีเพื่อขับไล่กองกำลังไอเอสออกจากเมืองโมซุล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิรักแล้ว โดยมีกองกำลังพันธมิตรสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดิน

Advertisement

ทั้งนี้ นายไฮเดอร์ อาบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก ปรากฏตัวทางสถานีโทรทัศน์ พร้อมคณะผู้บัญชาการทหาร กล่าวว่า ตนขอประกาศว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นของปฏิบัติการอันหาญกล้าในการปลดปล่อยพวกคุณพ้นจากความหวาดกลัวและการกดขี่ของพวกดาอิช” นายอาบาดีประกาศกร้าวต่อกลุ่มไอเอสที่เรียกในภาษาอาหรับว่า “ดาอิช”
คาดว่า มีการใช้กำลังทหารอิรักราว 30,000 นาย ที่มีกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดเปชเมอร์กาและนักรบชนเผ่าสุหนี่ร่วมสมทบกำลัง เพื่อผลักดันกองกำลังไอเอสที่มีประมาณ 4,000-8,000 คน ออกไปจากเมืองโมซุล

ขณะที่สถานีโทรทัศน์อัลจาซีราเผยแพร่ภาพวิดีโอที่ระบุว่าเป็นการทิ้งระเบิดถล่มเมืองโมซุล หลังการประกาศยึดคืนเมืองโมซุลของนายอาบาดีเสร็จสิ้นลง
นายสตีเฟน โอไบรอัน รองเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ด้านสิทธิมนุษยชนและการบรรเทาภัย แสดงความห่วงกังวลต่อความเสี่ยงภัยที่ประชาชนในเมืองโมซุลที่มีอยู่ราว 1.5 ล้านคน จะเผชิญจากการโจมตีเพื่อยึดคืนเมืองโมซุลของกองทัพอิรักและกองกำลังพันธมิตร

ขณะที่พลโท สตีเฟน ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรสหรัฐ กล่าวว่า ปฏิบัติการยึดคืนเมืองโมซุลอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ และเป็นไปได้ที่อาจยาวนานกว่านั้น แต่อิรักได้เตรียมการรับมือไว้แล้วและเราจะอยู่เคียงข้างพวกเขา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image