ไขข้อสงสัย! เชื้อโอมิครอนลูกผสม XE คืออะไร อันตรายมากไหม
เมื่อวันที่ 1 เมษายน สำนักข่าวเซาธ์ไชน่ามอนิงโพสต์ รายงานว่า นักวิจัยในหลายประเทศทั่วโลกค้นพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ผสมกับสายพันธุ์ย่อยต่างๆ และหนึ่งในสายพันธุ์เหล่านั้นดูเหมือนว่าจะสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม
สายพันธุ์โอมิครอนลูกผสมมีสายพันธุ์อะไรบ้าง
หน่วยงานความมั่นคงด้านสุขภาพของอังกฤษได้ติดตามเชื้อลูกผสม 3 สายพันธุ์ ได้แก่ XD, XE และ XF
สายพันธุ์ XD คือเชื้อลูกผสมระหว่างสายพันธุ์เดลต้า และสายพันธุ์บีเอ.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์โอมิครอน ส่วนใหญ่พบในประเทศฝรั่งเศส เดนมาร์ก และเบลเยียม
สายพันธุ์ XE คือเชื้อลูกผสมระหว่างสายพันธุ์บีเอ.1 และบีเอ.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์โอมิครอน แต่พบจุดกลายพันธุ์ 3 จุดที่ไม่ปรากฏในเชื้อโอมิครอนดั้งเดิม และพบในประเทศอังกฤษเท่านั้น
สายพันธุ์ XF คือเชื้อลูกผสมระหว่างสายพันธุ์เดลต้าและบีเอ.1 และพบในประเทศอังกฤษเท่านั้น
สายพันธุ์ลูกผสมเหล่านี้น่ากลัวแค่ไหน
สายพันธุ์ XD พบครั้งแรกในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และจนถึงวันที่ 22 มีนาคม พบตัวอย่างที่ติดเชื้อดังกล่าวแล้ว 49 ตัวอย่างในประเทศฝรั่งเศส เดนมาร์ก และเบลเยียม
นายทอม พีค็อก นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยอิมพิเรียล คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า นี่เป็นเชื้อลูกผสมที่ต้องจับตามอง เนื่องจากมันสามารถแพร่กระจายไปได้หลายประเทศ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของเชื้อเดลต้า สายพันธุ์ที่ทำให้เกิดอาการป่วยหนัก
จนถึงวันที่ 22 มีนาคม อังกฤษพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XE แล้ว 637 ราย ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดในชุมชน จนทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ
ทางหน่วยงานได้เปรียบเทียบตัวอย่างจีโนมจากเชื้อบีเอ.2 กับเชื้อ XE จึงพบว่า เชื้อ XE สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าถึง 9.8% อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเตือนว่า ข้อมูลอาจมีความคลาดเคลื่อนในระยะแรก ในขณะที่ศาสตราจารย์ซูซาน ฮอพกินส์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของหน่วยงานระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะสรุปได้ว่าแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นจริงไหม รุนแรงมากไหม และวัคซีนมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
ในขณะที่สายพันธุ์ XF พบครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มกราคม และไม่พบอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์
