โลกตะวันตกประณามรัสเซีย สังหารพลเรือนยูเครน จี้ดำเนินคดีหมีขาวก่ออาชญากรรม-เล็งคว่ำบาตรเพิ่ม
เมื่อวันที่ 4 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ต่างประณามรัสเซีย หลังจากมีภาพสุดสลดของศพพลเรือนหลายร้อยศพที่ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด บางศพถูกจับมัดมือไพล่หลังและยิงในระยะประชิด กระจายเกลื่อนอยู่บนถนนในเมืองบูชา ใกล้กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ปรากฏสู่สายตาชาวโลก หลังจากทหารรัสเซียถอนกำลังออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทางการยูเครนอ้างว่าเป็นฝีมือของทหารรัสเซียและกำลังดำเนินการสอบสวนเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม
โดยนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวถึงการสังหารพลเรือนชาวยูเครนว่า “การโจมตีที่น่ารังเกียจ” ของรัสเซียต่อพลเรือนในเมืองเอียร์ปินและเมืองบูชา เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และกองทัพรัสเซีย ก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน
ส่วนนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเป็นสิ่งที่น่าตกใจมาก ขณะที่นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ชี้ว่า เป็นความรุนแรงที่ไม่เคยพบเห็นในยุโรปมานานหลายทศวรรษ เป็นเรื่องน่ากลัวและไม่สามารถยอมรับได้อย่างแน่นอน
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวสนับสนุนการคว่ำบาตรใหม่ต่อรัสเซีย หลังจากมีสิ่งบ่งชี้ชัดว่ากองทัพรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในเมืองบูชา
ขณะที่นางคริสตีน แลมเบรชต์ รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี กล่าวว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะต้องหารือเรื่องการห้ามนำเข้าแก๊สจากรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบโต้
ส่วนนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานสภาอียู กล่าวว่า อียูจะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม
ยังมีท่าทีจากนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ที่กล่าวว่าเราขอประณามการสังหารพลเรือนในยูเครนอย่างแข็งกร้าว และรัสเซียจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
“ผู้ที่รับผิดชอบต่อการโจมตีที่รุนแรงและน่าตกใจนี้จะต้องนำตัวมาสู่กระบวนการยุติธรรม” นายกรัฐมนตรีแคนาดาทวีต
นอกจากนี้ ผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และอียู ยังเรียกร้องให้นำตัวผู้รับผิดชอบต่อการสังหารพลเรือนในยูเครนไปขึ้นศาลระหว่างประเทศที่กรุงเฮกด้วย
