อิสราเอลเปิดฉากถล่มฉนวนกาซา หลังถูกโจมตีด้วยจรวด ยูเอ็นเอสซีถกด่วน
อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งแรกในรอบหลายเดือนต่อฉนวนกาซาในช่วงเช้าวันที่ 19 เมษายน เป็นการตอบโต้หลังถูกยิงจรวดเข้าใส่จากฝั่งปาเลสไตน์ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างกันที่เพิ่มสูงขึ้น หลังเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่รอบนครเยรูซาเล็มในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เสียงไซเรนเตือนภัยดังขึ้นในพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลในช่วงดึกของวันที่ 18 เมษายน หลังมีการยิงจรวดจากพื้นที่ที่ควบคุมโดยกลุ่มมุสลิมฮามาส ซึ่งเป็นการยิงครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่ตรวจจะตกลงสู่ท้องทะเลนอกเทลอาวีฟ
กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ว่า มีการยิงจรวดลูกหนึ่งจากกาซาไปยังดินแดนของอิสราเอล แต่จรวดถูกสกัดโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศไอรอนโดม จากนั้นหลายชั่วโมงถัดมากองทัพอิสราเอลประกาศว่า ได้ตอบโต้กลับด้วยการโจมตีโรงงานผลิตอาวุธของกลุ่มฮามาส
ด้านกลุ่มฮามาสอ้างว่าได้ใช้ระบบป้องกันต่อต้านอากาศยานเพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศ ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ดีไม่มีฝ่ายใดในปาเลสไตน์ที่ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีอิสราเอล โดยเหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเกิดการโจมตีหลายครั้งในอิสราเอลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเยรูซาเลม
ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะประชุมในวันอังคารนี้เพื่อหารือถึงความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
การโจมตีของอิสราเอลต่อฉนวนกาซาในวันนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม เกิดขึ้นหลังเหตุรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในพื้นที่รอบๆ มัสยิดอัล-อักซอ ที่ชาวยิวเรียกว่าเทมเปิลเมาท์ ศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวยิว และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับ 3 ของศาสนาอิสลาม
ชาวปาเลสไตน์โกรธแค้นที่ชาวยิวสามารถเข้าไปสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้ตลอดเวลา แต่ชาวปาเลสไตน์แม้จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยือน แต่ไม่สามารถทำละหมาดในมัสยิดดังกล่าวได้ โดยกลุ่มฮามาสออกมาเตือนว่า อัล-อักซอเป็นของเรา และเป็นของเราคนเดียวเท่านั้น พร้อมสาบานว่าเราจะปกป้องสิทธิของชาวปาเลสไตน์ในการทำละหมาดที่นั่น
ในช่วงที่ผ่านมาเกิดเหตุยิงปะทะกันในกาซาและอัล-อักซอเพิ่มขึ้น ตามด้วยการโจมตีที่รุนแรงถึง 4 ครั้งตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมในอิสราเอลโดยชาวปาเลสไตน์และชาวอาหรับในอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 14 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ด้านนายเน็ต ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อความตึงเครียดที่เกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐได้โทรศัพท์หารือกับคู่เจรจาของพวกเขาทั้งในอิสราเอล ปาเลสไตน์ และในประเทศกลุ่มอาหรับ เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรักษาสถานะที่เป็นอยู่ในพื้นที่อัล-อักซอ และหลีกเลี่ยงการกระทำที่ถือเป็นการยั่วยุ
เมื่อวันจันทร์ที่ 18 เมษายน จอร์แดนได้เรียกตัวอุปทูตอิสราเอลมารับทราบการประท้วงต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายและถือเป็นการยั่วยุที่มัสยิดอัล-อักซอด้วย
