ถกสนั่น! ‘มัสก์’ เทกโอเวอร์ ‘ทวิตเตอร์’ ชูฟรีสปีช หวั่นข้อมูลบิดเบือน-เฮตสปีชว่อน
จากกรณีอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกบรรลุข้อตกลงที่จะเทกโอเวอร์ ‘ทวิตเตอร์’ สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดัง คิดเป็นมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมประกาศจะทำให้ทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มของ “เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” ส่งผลให้เกิดการถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ถึงขอบเขตของเสรีภาพดังกล่าว รวมไปถึงบทบาทของทวิตเตอร์ในการกำกับดูแลข้อมูลข่าวสารผ่านแพลตฟอร์มของตัวเองในอนาคต
ความห่วงกังวลดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากมัสก์ เคยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของทวิตเตอร์ที่จัดการกับเนื้อหาที่ “สร้างความเกลียดชัง” หรือ “ข้อมูลบิดเบือน” มาก่อนหน้าที่จะยื่นข้อเสนอซื้อทวิตเตอร์ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่ามัสก์ จะเปลี่ยนแปลงนโยบายของทวิตเตอร์ในเรื่องนี้อย่างไร
ในสหรัฐอเมริกาฝ่ายการเมืองสายอนุรักษ์นิยม แสดงออกสนับสนุนการลดความเข้มงวดในโลกทวิตเตอร์ลง โดยเฉพาะนักการเมืองรีพับลิกัน ที่เรียกร้องให้ มัสก์ ปลดแบนบัญชีทวิตเตอร์ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ถูกแบนลงหลังเกิดเหตุจลาจลที่รัฐสภาสหรัฐ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2021 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนต่างแสดงความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ไปในทิศทางเสรีมากขึ้นอาจส่งผลให้เนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง และเนื้อหาที่เป็นข้อมูลบิดเบือนแพร่กระจายในสังคมมากยิ่งขึ้น
ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ไม่ว่าทวิตเตอร์ จะมีใครเป็นเจ้าของ ทวิตเตอร์จะต้องมีความรับผิดชอบในการปกป้องสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงสิทธิในการมีชีวิตโดยปลอดจากข้อมูลบิดเบือน และความรุนแรง รวมไปถึงมีชีวิตโดยมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ความรับผิดชอบซึ่งทวิตเตอร์เองก็ล้มเหลวไปแล้วบ่อยครั้งเกินไป
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆขึ้นหลังอีลอน มัสก์ เข้ามาเป็นเจ้าของทวิตเตอร์อย่างเต็มตัวโดยกระบวนการการเทกโอเวอร์ดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้
