จากการซื้อขนมปังสู่การสูญเสียตลอดกาล

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจับเยนา บาเช็ก เอาไว้ ขณะที่พวกเขาอุ้มร่างคนพ่อออกไป หลังจากที่เกิดการถล่มย่านที่อยู่อาศัยที่พวกเขาอาศัยอยู่

ขณะที่เกิดการยิงถล่ม เยนาที่ทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษระบุว่า เธอกำลังเตรียมสอนออนไลน์อยู่ในห้องครัว ในอพาร์ตเมนต์ขนาด 1 ห้องนอนของเธอ ซึ่งอยู่ใกล้กับห้องที่พ่อและแม่ของเธออาศัยอยู่

“ฉันจำได้แค่เสียงระเบิด ฉันเพิ่งกลับจากซื้อของเข้าบ้านแล้วก็เกิดการระเบิดอย่างบ้าคลั่งและเสียงดัง”

ทันทีที่แม่ของเธอ ลีอูบอฟ โทรมาด้วยเสียงสั่นครือว่า พ่อออกไปซื้อขนมปังและยังอยู่ข้างนอกนั่น สามีของบาเช็ก เยฟเจนี ห้ามเธอไม่ให้วิ่งออกไปข้างนอกทันที เนื่องจากอาจมีการโจมตีต่อเนื่องเหมือนที่เคยเป็น

“ฉันเริ่มโทรหาพ่อ แต่ไม่มีคนรับสาย” เธอกล่าว

เมื่อเธอสวมเสื้อโค้ตและออกไปหลังจากนั้นไม่กี่นาที เธอก็ต้องพบกับร่างของพ่อที่มีช่างภาพซึ่งมาพร้อมกับรถพยาบาลถ่ายรูปศพอยู่

“ฉันขอโทษ ฉันอยากลืม รูปนั้น รูปที่เห็นพ่อ” บาเช็กกล่าว

กูบาเรฟ เป็นหนึ่งใน 3 ผู้เสียชีวิตจากการถล่มในวันที่ 18 เมษายน ที่เมืองคาร์คีฟ โดยกูบาเรฟเป็นอดีตคนขับรถซึ่งเริ่มงานตั้งแต่อายุ 16 ปี ก่อนจะเป็นผู้จัดการฝ่ายยานยนต์ที่บริษัทน้ำมันแก๊สพรอม ปัจจุบันมีอายุ 79 ปี ได้เกษียณจากงานแล้วเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ส่วนภรรยาของเขาเป็นครูสอนเปียโนที่ชื่นชอบการไปชมคอนเสิร์ตและละครเวที และบาเช็ก ลูกสาวเพียงคนเดียวเติบโตมากับครอบครัวชนชั้นกลางในยูเครน อดีตประเทศในสหภาพโซเวียต

ขณะนี้บาเช็กกำลังรอที่จะได้ฝังร่างพ่อในสุสานทั่วไป แต่ต้องรอนานเนื่องจากตอนนี้มีผู้เสียชีวิตมากและกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ครอบครัวกำลังรอข่าว ขนมปังก้อนนั้นที่พ่อของเธอถือไว้ยังคงวางอยู่บนโต๊ะที่ทางเดินของบ้าน ซึ่งบาเช็กมักจะจับก่อนเดินออกจากบ้าน

“ขนมปังก้อนนี้จมกองเลือด ฉันอยากเก็บมันไว้เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของพ่อ มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่อยู่ในมือเขา” บาเช็กกล่าว