ศาลสิงคโปร์พิพากษายืน แขวนคอชายมาเลย์ป่วยทางจิต นำเฮโรอีนเข้าประเทศพรุ่งนี้
ศาลสิงคโปร์พิพากษายืนให้ประหารชีวิตนายนาเกนธราน ธรรมลิงกัม ชายชาวมาเลเซียที่มีปัญหาทางจิต ซึ่งถูกจับในข้อหาลักลอบนำเฮโรอีนเข้าสิงคโปร์เมื่อปี 2009 ด้วยการแขวนคอ หลังจากคดีดังกล่าวยืดเยื้อมานานหลายปี แม้จะมีผู้ออกมาเรียกร้องให้มีการเว้นโทษให้กับเขาก็ตาม
ญาติของนายธรรมลิงกัมพากันร้องไห้สะอึกสะอื้นในศาล เมื่อความพยายามที่จะยื่นขออุทธรณ์ในคดีของเขาไม่เป็นผล และจบลงด้วยความพยายามที่ล้มเหลวในการยุติการประหารชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 27 เมษายนนี้
การพิพากษาประหารชีวิตนายธรรมลิงกัมซึ่งเป็นผู้ป่วยทางจิตในข้อหาลักลอบนำเฮโรอีนจำนวนไม่มากเข้ามาในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดในโลก ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางไปทั่วโลก แม้แต่นายริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีอังกฤษและสหภาพยุโรปก็พากันประณามคำตัดสินดังกล่าว
มารดาของนายธรรมลิงกัมกล่าวต่อศาลว่า เธออยากให้ลูกชายกลับมาหาขณะยังมีชีวิต นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี่ พร้อมกับโต้เถียงว่ามีความขัดแย้งในแง่ผลประโยชน์ เนื่องจากหัวหน้าคณะผู้พิพากษาของศาลสิงคโปร์ซึ่งปฏิเสธคำขออุทธรณ์ครั้งก่อนของลูกชายของเธอดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของสิงคโปร์เมื่อครั้งที่ลูกชายของเธอถูกตัดสินว่ากระทำความผิด
อย่างไรก็ดี ผู้พิพากษาแอนดรูว์ ปัง ซึ่งเป็นหัวหน้าองค์คณะผู้พิพากษา 3 ท่าน ปฏิเสธข้อโต้แย้งทันที และบอกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระและเป็นเพียงความพยายามที่จะเปรียบเทียบเพื่อชะลอการแขวนคอเท่านั้น
ขณะที่นายธรรมลิงกัมวัย 34 ปี มีทีท่าสงบและพยายามจะปลอบญาติของเขา ก่อนที่จะขอเวลาอยู่ตามลำพังกับครอบครัว ทั้งนี้ เดิมเขาถูกกำหนดให้ถูกประหารชีวิตในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน แต่กระบวนการดังกล่าวล่าช้าออกไปเนื่องจากมีการยื่นอุทธรณ์โดยอ้างว่า การประหารชีวิตบุคคลที่มีความบกพร่องทางจิตขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
นายธรรมลิงกัมถูกจับกุมเมื่อมีอายุเพียง 21 ปี ขณะเดินทางเข้าสิงคโปร์พร้อมกับเฮโรอีนหนัก 43 กรัม โดยผู้ที่สนับสนุนไม่ให้มีการประหารชีวิตระบุว่า เขามีไอคิวเพียง 69 ซึ่งเป็นระดับที่ถือว่าทุพพลภาพและถูกบีบบังคับให้กระทำความผิด แต่ทางการสิงคโปร์ยืนยันว่า เขารู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ขณะกระทำผิด
