อียู-อังกฤษ เตือน ‘อีลอน มัสก์’ ต้องปกป้องผู้ใช้ทวิตเตอร์
การเข้าเทกโอเวอร์ทวิตเตอร์ หนึ่งในโซเชียลมีเดียยอดนิยมของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ด้วยเงินถึง 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งกลายเป็นข่าวที่สร้างความสนใจอย่างกว้างขวาง แต่ก็ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมตามมาด้วยเช่นกัน
มัสก์ประกาศว่า เขาจะผ่อนคลายข้อจำกัดด้านเนื้อหา ซึ่งทำให้เกิดความหวั่นวิตกจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนรวมถึงภาครัฐว่าอาจจะนำไปสู่การบูลลี่ และการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงบนทวิตเตอร์
คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้เตือนว่ามัสก์จะต้องปกป้องผู้ใช้งานทวิตเตอร์
ขณะที่นายเทียร์รี บรีตัน กรรมาธิการด้านการตลาดภายในของสหภาพยุโรป (อียู) ทวีตเตือนว่า ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือโซเชียลมีเดีย บริษัทใดๆ ที่ดำเนินกิจการในยุโรปจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎของเรา โดยไม่คำนึงว่าเขาจะถือหุ้นอยู่เท่าไหร่
อียูระบุว่ากฎที่ออกมาควบคุมโลกออนไลน์ใหม่จะเป็นการยกเครื่องตลาดดิจิทัล รวมถึงวิธีการดำเนินการของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี และเมื่อมีผลบังคับใช้แล้ว มันจะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นว่าทำไมจึงมีแนะนำเนื้อหาต่างๆ ให้กับผู้ใช้งาน หรือเหตุใดจึงมีการกำหนดเป้าหมายไปยังโฆษณาบางรายการ เป็นต้น
ด้านโฆษกของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า เราไม่คำนึงถึงความเป็นเจ้าของ แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมดต้องมีความรับผิดชอบ
ในการประกาศผลสำเร็จของการเทกโอเวอร์ทวิตเตอร์ มัสก์ระบุว่าจะทำให้ทวิตเตอร์เป็นฟอรั่มสำหรับการพูดคุยอย่างอิสระโดยแท้จริง ในฐานะเวทีที่เป็นรากฐานของประชาธิปไตยที่ใช้งานได้จริง
คำประกาศของมัสก์ทำให้เกิดความวิตกกังวลขึ้นตามมา ว่าการกำกับดูแลหรือเซ็นเซอร์ข้อมูลเท็จรวมถึงคำพูดที่ไม่เหมาะสมจะหายไป และทำให้ทวิตเตอร์กลายเป็นเวทีที่ไม่ปกป้องผู้ใช้งาน จนภาครัฐออกมาแสดงจุดยืนดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นายแจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ซึ่งยังคงเป็นคณะกรรมการของบริษัทได้แสดงความยินดีต่อการเทกโอเวอร์กิจการของมัสก์ โดยบอกว่านี่เป็นเพียงทางออกเดียวที่เขาไว้ใจปัจจุบันบริษัทเป็นเจ้าของโดยวอลสตรีท และการตัดสินใจของมัสก์ในการเพิกถอนหุ้นและทำให้มันเป็นบริษัทส่วนบุคคลนั้นเป็นขั้นตอนแรกที่ถูกต้อง
“ทวิตเตอร์จะยังคงทำหน้าที่ให้บริการในการสื่อสารสาธารณะ แต่ผมไม่เชื่อว่าทุกคนควรจะเป็นเจ้าของหรือบริหารทวิตเตอร์” ดอร์ซีย์กล่าว
