จนท.สหรัฐเริ่มถกไทย-อาเซียน ก่อนซัมมิตผู้นำ มุ่งกระชับความเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาคที่แข็งแกร่งขึ้น

จนท.สหรัฐเริ่มถกไทย-อาเซียน ก่อนซัมมิตผู้นำ มุ่งกระชับความเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาคที่แข็งแกร่งขึ้น

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า สหรัฐอเมริกาจะเริ่มต้นการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อกระชับความเป็นหุ้นส่วนในภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและตอกย้ำบทบาทที่สำคัญยิ่งของอาเซียนในการสร้างสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสหรัฐ และไทย จะพบกันที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 9-10 พฤษภาคม เพื่อเข้าร่วมการหารือยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศระหว่างสหรัฐกับไทย (U.S.-Thailand Strategic and Defense Dialogue) เป็นครั้งแรก โดยมีนายแดเนียล คริเทนบริงค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และนายอีไล แรตเนอร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายสหรัฐ ในขณะที่นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทย และพลเอก วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหมไทย เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย

การหารือยุทธศาสตร์และการหารือด้านการป้องกันประเทศเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับไทยที่มีมายาวนาน ซึ่งการประชุมในปีนี้ถือเป็นการหารือร่วมกันและพบกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดใหญ่ขึ้นทั่วโลก การหารือในปีนี้จะครอบคลุมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความร่วมมือในหลากหลายด้านระหว่างสหรัฐกับไทย นอกเหนือจากความร่วมมือที่กว้างขวางและหยั่งรากลึกของเราเพื่อรับมือกับความท้าทายนานัปการที่โลกกำลังเผชิญ ซึ่งรวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความมั่งคั่งหลังยุคโควิด-19 ความร่วมมือด้านสาธารณสุขและการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนความพยายามในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศ

เราจะหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันที่แข็งแกร่งในฐานะที่สหรัฐ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดและหนึ่งในแหล่งลงทุนจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของไทย แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายในระดับภูมิภาคและระดับโลก สหรัฐ และไทย จะยืนยันการเป็นพันธมิตรในสนธิสัญญาและการเป็นหุ้นส่วนอันยาวนานระหว่างเรา ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือในการจัดการความท้าทายและการบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกันต่อไป

Advertisement

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ระบุอีกว่า หลังเสร็จสิ้นการหารือยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศระหว่างสหรัฐกับไทย จะมีการประชุมสุดยอดสหรัฐ-อาเซียน สมัยพิเศษ (U.S.-ASEAN Special Summit) โดยประธานาธิบดีไบเดนจะเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำประเทศอาเซียน ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคม การประชุมสุดยอดแบบพบกันครั้งนี้จะเน้นย้ำความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนต่ออาเซียนและบทบาทสำคัญของอาเซียนในการหาทางออกที่ยั่งยืนเพื่อรับมือความท้าทายเร่งด่วนสูงสุดของภูมิภาค

การประชุมสมัยพิเศษครั้งนี้จะต่อยอดจากเมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีไบเดนได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหรัฐ-อาเซียน เดือนตุลาคม 2564 ซึ่งจัดขึ้นทางออนไลน์ โดยในการประชุมดังกล่าว ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศข้อริเริ่มใหม่ๆ มูลค่า 102 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายความร่วมมือของเรากับอาเซียนในด้านการฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 และความมั่นคงด้านสุขภาพ ตลอดจนการต่อสู้วิกฤตการณ์ด้านสภาพภูมิอากาศ การกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในวงกว้าง การส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ และการสานสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของเราให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญอันดับต้นๆ ของรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนและรองประธานาธิบดีแฮร์ริส คือการเป็นหุ้นส่วนที่มั่นคงและพึ่งพาได้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปี 2564 สหรัฐได้ประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งกำหนดกรอบวิสัยทัศน์เชิงนโยบายการต่างประเทศและความมุ่งมั่นที่ประธานาธิบดีไบเดนมีต่อความร่วมมือที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์กับพันธมิตร หุ้นส่วน และหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกภูมิภาค

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image