น้ำมันโลกดีดตัวขึ้นกว่า 5% หุ้นมะกันร่วง ทองปรับเพิ่ม
หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจนซื้อขายต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลวานนี้ ล่าสุดราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 5% หลังปริมาณการส่งพลังงานจากรัสเซียไปยังยุโรปลดลง ขณะที่รัสเซียได้คว่ำบาตรบริษัทพลังงานในยุโรปบางแห่ง ทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นในตลาดพลังงานโลก
ปริมาณการส่งก๊าซของรัสเซียไปยังยุโรปผ่านยูเครนลดลงถึง 1 ใน 4 หลังจากยูเครนได้ประกาศระงับการใช้เส้นทางการขนส่งหลัก โดยอ้างการแทรกแซงจากกองทัพรัสเซียที่ยึดครองพื้นที่ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่การส่งออกพลังงานของรัสเซียผ่านยูเครนได้รับผลกระทบ นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอาจจะเกิดการหยุดชะงักที่คล้ายกันเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่รัสเซียได้ประกาศคว่ำบาตรบริษัท 31 แห่งซึ่งอยู่ในรายชื่อประเทศที่กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มเติมอีกด้วย
น้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือปิดเพิ่มขึ้น 5.05 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ 107.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเพิ่มขึ้น 6% ที่ 5.95 ดอลลาร์ มาปิดที่ 105.71 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันจะยังคงขยับเพิ่มขึ้นต่อไปโดยเฉพาะเมื่อสหภาพยุโรป (อียู) บรรลุข้อตกลงยุติการซื้อขายน้ำมันของรัสเซีย แม้ว่าขณะนี้จะยังคงมีความขัดแย้งของสมาชิกอียู เนื่องจากบางประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์หลักของสหรัฐทั้งสามตลาดพากันปรับตัวลดลงทั้งหมด โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์จะลดลง -1.02% หรือ 326.63 จุด มาปิดที่ 31,834.11 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 -1.65% หรือ 65.87 จุด ปิดที่ 3,935.18 จุด และดัชนีแนสเดก -3.18% หรือ 373.44 จุด ปิดที่ 11,364.24 จุด
ขณะที่ตลาดหุ้นในยุโรปปิดบวกทั้งหมด โดยดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ +1.44% หรือ 104.44 จุด ปิดที่ 7,347.66 จุด ดัชนี DAX ของเยอรมนี +2.17% หรือ 293.93 จุด ปิดที่ 13,828.64 จุด ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส +2.50% หรือ 152.82 จุด ปิดที่ 6,267.73 จุด และดัชนี Euro Stoxx 50 ปรับ +2.62% หรือ 93.07 จุด ปิดที่ 3,647.87 จุด
ด้านราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +0.05% มาซื้อขายที่ 1852.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
